303 ตอบกลับ
สำหรับเรา ๆ คิดว่าทุกคนมักเจอปัญหาเรื่องนี้กันทุกบ้านนะคะ คือเข้าใจค่ะว่าสมัยก่อนก็ถูกเลี้ยงมาแบบนี้ก็โตมาได้ สมัยนี้จะอะไรนักหนา ลองพยายามอธิบายเพิ่มดีไหมค่ะ ใช้เหตุผลไม่รู้ว่าจะช่วยได้ไหมแต่บ้านเราๆเอาเหตุผลคุยกัน อธิบายผู้ใหญ่ไม่ใช่ว่าเราเชื่อหมอหมดนะคะ แต่เขาต้องศึกษามาอย่างดีแล้วว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อะไรควรทำตอนไหน เวลาไหน คือเขาต้องศึกษา วิเคราะห์ วิจัยกันมาหมดแล้ว ทำไมถึงให้กินนมอย่างเดียว เพราะในน้ำนมมีครบทุกอย่างแล้ว สารอาหาร น้ำ กลัวลิ้นเป็นฝ้าก็เอาผ้าอ้อมชุบน้ำหมาดๆเช็ดเอาก็ได้ค่ะ ฉี่เด็กอย่าลืมนะคะว่ามันคือของเสีย การที่เราเอาของเสียเข้าปากแน่นอนมันไม่ดี แล้วถ้ากินนมแม่ในน้ำนมแม่มีส่วนช่วยในเรื่องการปกป้องแบคทีเรียในช่องปากด้วยนะคะ ส่วนเรื่องข้าว กล้วย คือนมมันมีครบหมดแล้ว ไม่เข้าใจเหมือนกันจะรีบป้อนนู้น นี่ นั่นกันเร็วๆเพื่ออะไร อะไรทำให้คิดว่าเด็กไม่อิ่มในเมื่อกระเพาะเด็กเล็กนิดเดียวเท่านั้น เช่นเดียวกันกับน้ำที่คุณหมอห้ามก็เพราะ ถ้าเด็กกินน้ำเยอะ จะเอากระเพาะที่ไหนไปกินนมต่อ น้ำกินได้ค่ะ แต่อย่ามาก ถ้าหาเหตุผลมาอธิบายพวกผู้ใหญ่ บรรดาแม่ๆแล้วยังไม่ยอม ครั้งหน้าคุณแม่พาไปโรงพยาบาลแล้วให้คุณหมออธิบายให้ท่านฟังด้วยเลยค่ะ บ้านเพื่อนเราหลายครอบครัวเจอปัญหาเดียวกันสุดท้ายจบลงที่พาไปหาหมอด้วยเลยลงเอยด้วยดี คือเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ภูมิคุ้มกัน ภูมิต้านทานไม่เหมือนกันสักคน พ่อแม่คนละคน จะไปใช้วิธีเลี้ยงแบบเดียวกันหมดไม่ได้ค่ะ
บ้านนี้ก็เป็นคะ ทะเลาะกันบ้านแทบแตก ยิ่งตอนแม่สามีชงนมผิดจนน้องเข้าโรงพยาบาล เราแทบจะพาลูกหนี เรากับสามีคุยกันก่อนที่จะคลอดน้องแล้วว่า ถ้าแม่สามีจะเลี้ยงต้องเลี้ยงในแบบที่เราต้องการเท่านั้น คำโบร่ำโบราณเก็บเข้ากรุไปเลย แต่สุดท้าย - น้องเกิดได้ 20 วันเอาน้ำใส่ขวดให้น้องดูด ผลคือน้องท้องเสีย - เรากลับไปทำงาน แม่สามีชงนมเกินปริมาณ ผลคือน้องลำไส้อักเสบ - ตอนน้อง 3 เดือนบอกจะเอากล้วยป้อน เพราะน้องไม่ได้กินนมแม่ เราบอกไปเลยว่า “ถ้าจะป้อนกล้วยก็ให้ไปเลี้ยงเด็กคนอื่น อย่ามายุ่งกับลูกเรา” ผลคือ นางเงียบ ส่วนสามีเข้าข้างเราคะ **บ้านนี้โชคดีที่ใช้แพมเพิสตั้งแต่เกิด ผ้าอ้อมมีไว้เช็ดหน้า เช็ดตัว เช็ดปากคะ (แต่ก็โดนบ่นข้อหาสิ้นเปลือง) **บ้านนี้เลี้ยงด้วยนมผง โดนกระแนะกระแหนทุกวันว่าลูกผอมเพราะไม่ได้กินนมแม่ แต่เราไม่สนคะ (น้ำนมเรามีน้อยตั้งแต่น้องเกิดคะ) **ตั้งแต่แม่สามีเอาน้ำให้น้องกิน เราติดกล้องที่บ้านเลยคะ บอกเลยว่าไม่ไว้ใจคะ ทุกวันนี้น้อง 3m24d แข็งแรง น้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์ปกติ จะว่าเราเป็นสะใภ้ใจร้ายก็ช่างหรืออะไรก็ช่างคะ แต่ข่าวมีออกบ่อย หมอกผ้เตือนตลอด ยุคสมัยเปลี่ยนไปอะไรๆ ก็ไม่เหมือนเดิมคะ ลูกเราเราต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้อยู่แล้ว เราไม่สนว่าเค้าจะเลี้ยงลูกมายังไง เรารู้แค่ว่าเราเด็กคนนี้คือลูกเรา ต้องเลี้ยงแบบเราไม่ใช่แบบเค้า Don’t care คะ!!! เป็นกำลังใจให้นะคะ
แฟนผมก็เบื่อแม่ผมเหมือนกันครับ จะให้กินกล้วยกินข้าว จะให้กินน้ำ ให้ดัดขา ดึงดั้ง บีบนม สารพัด แฟนผมก็รำคาญครับ เพราะเขาเลี้ยงแบบวิทยาศาสตร์ไม่สนใจเรื่องความเชื่อ ผมเข้าใจ นั่นมันสมัยก่อนครับ ทารกไม่จำเป็นต้องกินน้ำเพราะในนมแม่ประกอบด้วยน้ำ80%แล้วครับ การกินน้ำจะทำให้น้องท้องอืดงอแงหรืออาจจะถ่ายท้องได้ครับ ปัสสาวะไม่ควรใช้เช็ดปากลูกนะครับ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดเอา เราเองยังไม่อยากกินปัสสาวะตัวเองเลยครับ ใจเรารู้ดีว่ามันเป็นของเสียที่ร่างกายขับออกมา ข้าวหรือกล้วยอะไรยังไม่จำเป็นต้องป้อนหรอกครับ สมัยก่อนไม่ค่อยมีอะไรกิน น้ำนมที่ออกมาเลยคุณภาพไม่ดีเท่าตอนนี้ เรากินอะไรก็เหมือนให้ลูกเรากินครับ กินของที่มีประโยชน์เยอะๆ ใช้ตัวเรานี่แหละครับ เป็นเครื่องบดให้ลูก ลำไส้น้องยังอ่อนแออย่าเพิ่งเอาอะไรหนักๆไปใส่เลยครับ ขอโทษที่ยาวนะครับ สู้ๆนะครับคุณแม่✌✌ ไม่ต้องฟังคำพูดใคร เลี้ยงตามใจเรานี่แหละ
บ้านนี้ แม่สามีให้เลี้ยงตามหมอคะ แต่แม่เราจะให้กินข้าวกินน้ำแต่เดือนแรกเลย แต่เราไม่ยอม จนลูกได้ 3 เดือนแกก็บอกให้กินอีกเราก็ยังไม่ให้กิน แกจี้ทุกวัน(อยู่บ้าน้ดียวกัน) แกบอกว่าทำไมยังไม่ทำข้าวให้ลูกกิน แค่นี้ไม่มีปัญญาทำต่อไปจะทำอะไรให้ลูกได้ เราก็บอกทำได้แต่ยังไม่ให้กิน!! จบไปวัน เอาอีก ทำข้าวให้ลูกกินยัง ก็ตอบยัง ระวังนะอดข้าวลูกเดี๋ยวโตไปมันจะพามึงอด อ้าาวว มีอีก ทำไมยังไม่ให้กินข้าวอีกจะรอ 6เดือนเหรอเด็กมันผอม เราก็เลยบอกว่าหยุดพูดเรื่องนี้เถอะ!! แกพูดว่า นี่ข่มขู่กูเหรอ บอกให้กูหยุดพูดเนี้ยะ ข่มขู่ งั้นกูคงอยู่ร่วมกับมึงไม่ได้แล้ว อะผ่านไป3-4วัน พูดอีก เนี้ยะหลานนะ ไม่พูด ไม่ร้องอะไร เหมือนจะเป็นซึมเศร้าแม่นะเป็นห่วงนะ เป็นห่วงมากกกก หาข้าวให้ลูกกินได้แล้วเดี๋ยวมันเป็นอะไรไป เราแบบ เฮ้อ!! ไม่จบนะ มีอีกว่าเราว่าไม่เชื่อฟังพ่อแม่ หาความเจริญไม่ไดหรอก ไม่เหมือนตอนแกเลี้ยงพ่อแม่แกบอกอะไรแกก็ทำตามแกถึงได้เจริญ โอ้ยยยย เราเครียดกับแม่ตัวเองมา ทุกวันนี้เราก็ยังไม่ให้ลูกกินข้าว(3เดือนกว่า) แกก็ประชดประชันกระแทกแดกดันเราทุกวัน เบื่อมากกกกก
โดนเหมือนกันค่ะ แม่ตัวเอง ขนาดว่าไม่ได้อยู่บ้านด้วยกันแล้ว ก็ยังโทรมาถามมาบอกให้ทำข้าวให้ลูกกิน เราบอกว่ายังรอ6เดือนก่อน แม่บอกว่าเราขี้เกียจซะงั้น เพลียใจกะแม่เลย
ไม่ควรทำสักข้อเลยค่ะ 1.ในปัสสาวะมีเชื้อโรค เอามาเช็ดปากเพื่ออะไรค่ะ เด็กทารกยังไม่มีภูมิคุ้มกันเลย 2.เด็กทานอาหารบดละเอียดได้ตอน 6 เดือนนะคะ เนื่องจากกระเพาะยังไม่สามารถสร้างน้ำย่อยมาย่อยอาหารนอกจากนมแม่ได้ ถ้ากินก่อน อาจจะทำให้ทารกเป็นลำไส้อุดตัน อีกหน่อยเป็นเด็กถ่ายลำบากต้องผ่าตัดลำไส้ได้ เด็กทารกไม่ควรทานอย่างอื่นนอกจากนมแม่นะคะ ในนมแม่มีนำ้อยู่แล้วถึง 80% ถ้าทานนมผง อาจะให้จิบน้ำล้างปากหรือเช็ดลิ้นด้วยผ้าอ้อมสะอาดชุบน้ำ หรือผ้าก็อตเช็ดลิ้น เพื่อไม่ให้นมเกาะลิ้น จนเป็นฝ้าเป็นเชื้อราได้ 3. หากน้องสะอึก ให้กินนมแม่ต่อน้องจะหายสะอึกไว หรืออุ้มพาดบ่าเหมือนท่าจับเรอ เพื่อให้กระบังลมแยกกับกระเพาะอาหาร หรือ ปล่อยไว้ เดี๋ยวทารกจะหายเอง ถ้าให้ทารกกินน้ำมากเท่าไหร่บอกไม่ได้นะคะ จะทำให้ทารกอิ่มน้ำ กินนมได้น้อย นำ้หนักขึ้นไม่ดี ตัวเล็ก อาจทำให้เป็น ปอดบวม สมองบวม ชัก เสียชีวิตได้ค่ะ บอกแม่สามีหมอห้ามทำแบบนั้นค่ะ ไม่ต้องทำตามเขา อย่าฟังเยอะ หาข้อมูลให้สามีอ่านว่าที่แม่ให้ทำไม่ดี
1. ปัสสาวะ สกปรกนะคะ เด็กยังไม่มีภูมิคุ้มกันอะไรเลย เสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายๆ 2. กระเพาะเด็กระบบการย่อยยังไม่ดีเลยค่ะ เด็กบางคนที่กินนมผง ยังย่อยยากเลย ทำตามคุณหมอดีแล้วค่ะ นมแม่(หรือนมผง) ล้วน จนอายุครบ 6 เดือน 3. น้ำ ไม่จำเป็นต้องให้ลูกทาน ในนมแม่และนมผงมีน้ำเป็นส่งนประกอบอยู่แล้วค่ะ **เพิ่มเติม ลองหาข้อมูลเวลาลูกสะอึกต้องแก้ไขอย่างไรลองให้แม่สามีอ่านดูค่ะ ไม่มีตำราไหนบอกให้ทารกดื่มน้ำเลย ***และที่สามีบอกว่าสมัยก่อนเขาก็เลี้ยงกันมาแบบนี้ ใช่ค่ะ เราแค่โชคดีที่โตกันมาได้ และแข็งแรงจนมาเป็นพ่อคนแม่คน เพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์ และข้อมูลความรู้ยังไม่ก้าวไกล แต่ตอนนี้ เวลานี้ มันไใ่เหมือนสมัยก่อนแล้วค่ะ เราต้องปรับตัว เด็กไม่ได้เกิดมาแข็งแรงแบบยุคเราๆ ทำตามที่หมอแนะนำดีที่สุดนะคะ ****จากประสบการณ์ส่วนตัวย่า/ยายค่อนข้างหัวโบราณ เวลาไปหาหมอ เราตะให้เขาไปด้วยค่ะ มีอะไรสงสัยในสิ่งที่เขาสอน ก็จะถามต่อหน้า ให้หมอตอบ แล้วเขาจะฟังขึ้นมาเลยค่ะ เราพูดไม่ฟังต้องให้หมอพูดค่ะ //เป็นกำลังใจนะคะ ✌🏻
นมแม่กินได้ตลอดตามเราสะดวกค่ะ บางคนกินจนลูก7-8ขวบก็มีค่ะ ของเราคุณหมอประเมินให้เริ่มฝึกกินตอนไปฉีดยาตอนน้อง4เดือนนิดๆค่ะ ย้ำว่าฝึกกินนะคะ ไม่ใช่ป้อนเลย คุณหมอบอกว่า ค่อยๆหาอะไรที่มีรสชาติที่ต่างไปจากนมแม่ ให้เขาได้รับรู้รสชาติค่ะ ช่วง5เดือนเราฝึกลูกกินใช่มั้ยคะ พอ6เดือนเขาก็จะกินเป็นพอดีค่ะ ดีกว่าไปเริ่มกินตอน6เดือนเป๊ะๆ กว่าจะเป็นก็7เดือนค่ะ ตอนนี้น้องก็5เดือน10กว่าวันแล้วค่ะ ตอนนี้เราก็ให้กินผลไม้ ที่ใส่จุกดูดผลไม้อ่าค่ะ มะละกอมั่ง แตงโมมั่ง ส้มมั่ง ข้าวก็ป้อนเป็น ข้าวบดราดนมแม่ค่ะ ฟักทองบดกับข้าวใส่ไข่แดง สลับกันไปค่ะ น้องไม่ได้กินมากค่ะ 1วันกินแค่1ช้อนโต๊ะ กินผลไม้ที่ใส่ให้เขาดูดค่ะ น้ำเราก็ให้กินนะคะ แต่ว่าให้แค่แบบจิบๆ เพราะกลัวว่าถ้าเขาหิวนมกลัวน้ำจะเต็มกระเพาะเขาแล้วโมโหหิวนมได้ค่ะ เลี้ยงตามเราดีกว่าค่ะ เราเลี้ยงตามหมอ ของเราที่บ้านเขาก็บอกให้ลูกกินนั่นสิกินนี่สิ เราบอกไม่ เรายื่นคำขาดค่ะว่าเราเลี้ยงตามหมอและเลี้ยงตามประสาเราเองค่ะ
ช่วง3เดือนก่อนผมทำงานเสี่ยงติดโควิดเพราะเพื่อนติดกันเยอะ ผมเลยกักตัวทั้งบ้านพอแน่ใจว่าไม่เป็น ผมเลยส่งเมียกับลูกไปอยู่บ้านแม่ซักพัก เมียเล่าให้ฟังแม่ป้อนข้าวหลานป้อนกล้วย ผมเข้าใจว่าอยากให้หลานอิ่มแต่ผมเลี้ยงลูกตามคำแนะนำแพทย์ อีกอย่างน้องเจอความเสี่ยงเบาหวานคุกคามมาด้วยตอนอยู่ในท้อง ผเลยบ้านทั้งเมียและแม่ว่าห้ามให้กิน โมโหด้วยเพราะผมเป็นเบาหวานแฟนก็เป็นเบาหวาน ก่อนหน้านี้ก็แท้งค์เพราะเบาหวานคุกคาม ท้องนี้ผมดูแลแฟนคุมทุกอย่าง😥😥กว่าจะคลอด พอกลับมาก็ห้ามกินเลย กินนมขวดนี้ล่ะครับ ตอนนี้จะเข้า6เดือนน้ำหนักตามเกณฑ์ปกติ ไม่เคยเป็นอะไรทั้งนั้น บางครั้งเราก็ต้องเอาเหตุและผลคุยกับคนนั้นไม่ว่าเขาอยู่สถานะไหนก็ตาม #ผมคุณพ่อมือใหม่และลูกคนเดียว เราไม่ยอมให้เขาอดแน่นอน แต่มันต้องดูความเหมาะสม อาหารบางอย่างมันไม่เหมาะกับวัยดีไม่ดีอันตรายอีก สู้ๆครับคุณแม่
เลี้ยงลูกตามหมอดีกว่าเลี้ยงลูกตามคำเชื่อโบราณ น้ำ ข้า กล้วย ถ้าหมอไม่แนะนำแม่ก็ควรให้แต่นมน้องจนถึง6เดือนนะคะ น้องยังไม่ได้อยากรับสิ่งอื่นมีแต่คิดกันไปเองทั้งนั้น จะมีหมอไว้ทำไมล่ะ ในเมื่อเอาแต่สิ่งที่บอก เคยเลี้ยงมาแบบนี้ ก็ไม่เห็นจะเป็นไร ถูกค่ะ ลูกพวกคุณไม่เป็น แต่ลูกคนอื่นอาจเป็น ต้องเสี่ยงลองก่อนฃั้นหรอ ไม่เชื่อหมอ พอป่วยกันมาก็วิ่งแล่บไปหาหมอกัน แล้วพอหมอแนะนำกลับเอาแค่ความคิดว่าทำแล้วก็ปลอดภัยนี่ เห้อออ ส่วนคำแนะนำว่าน้ำทานได้ก่อน6เดือนของแม่ๆหลายบ้าน อยากให้ศึกษากันก่อนดีๆนะคะ ศึกษาความรู้ที่ดีที่ถูกก่อนมาแนะนำ อยากชี้แนะไม่ผิด แต่ผิดตรงเอาความรู้และความเชื่อผิดๆมาเพิ่มความเสี่ยงเด็กคนอื่นๆ จะใช้แค่คำว่าน้ำ กล้วย บ้านนี้ก็ไม่เห็นเป็นไรยังโตมาได้ไม่ถูกนะ โชคดีของลูกคุณไป แต่ไม่ใช่เด็กทุกคน!!
ถ้าอย่างเบาๆก็พาไปหาหมอด้วยกัน ให้หมออธิบายค่ะ ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องแรงบ้างนะคะ ลูกเรา เราอยากจะเลี้ยงแบบเรา สมัยก่อนไม่ได้เจริญแบบนี้ ทุกอย่างเลี้ยงด้วยการลองผิดลองถูก เดี๋ยวนี้วิทยาศาสตร์วิจัยแล้วว่าฉี่ไม่ได้มีประโยชน์เลยค่ะ มันคือของเสียที่ร่างการขับออกมา ดีไม่ดีลูกติดเชื้อจะลามปามไปใหญ่ ถ้าคุณแม่ไม่เข้าใจก็ถามคุณแม่ว่าคุณแม่กินฉี่ไหมคะตอนนี้? ถ้าไม่กินทำใมลูกต้องกิน.. นมแม่มีส่วนผสมของน้ำอยู่แล้วค่ะ ลูกสะอึกให้เข้าเต้า น้ำกินแล้วเปลืองท้อง ลูกจะกินนมได้น้อยเพราะอิ่มน้ำ และสารอาหารจะไม่พอค่ะ ส่วนกล้วยบดอาหารต่างๆ ลูกจะปวดท้องเพราะย่อยไม่ได้ ร้องงอแง บางรายเสียชีวิตได้นะคะถ้าติดคอ เพราะทางเดินอาหารหลอดอาหารเขายังรับอะไรไม่ได้นอกจากของเหลวค่ะ สู้ๆนะคะคุณแม่ ขอให้โชคดีค่ะ
วรัญญา มาลัยกุล