ใจคิดว่าควรคัดให้ดีก่อนจำมาทำ เพราะต้องการคนที่มีจิตใจรักในด้านนี้และอดทนกับเด็กได้จริงๆ แต่ถ้าผ่านการคัดแล้วประเมินแล้วมาเกิดเหตุขึ้นต้องถูกประณามและถึงเข้าคุกค่ะ แค่ไล่ออกโทษมันเล็กน้อยมาก ไม่คุ้มกับนิสัยอาการที่ลูกจะจำไปใช้ในทางที่ไม่ดี เช่น นิสัยก้าวร้าย พูดจาไม่เพราะ ตีเพื่อนตีพ่อแม่ กลัวการเข้าสังคมหรือการไปร.ร. ยิ่งกับเด็กตัวเล็กๆยิ่งต้องให้ความสำคัญ

ถ้ารู้ตัวว่าไม่ใข่คนใจเย็น / ไม่ชอบเด็ก / เป็นคนขี้หงุดหงิด ควรหางานอื่นที่เหมาะกับตัวเองค่ะ เพราะคนเป็นแม่ เขาฝากฝังให้รร.ดูแลก็เพราะไว้วางใจ มาเจอแบบนี้ครอบครัวจะเจ็บปวดแค่ไหน ลองคิดดูเอาค่ะ

ไล่ออกแล้วเร่งดำเนินการทางกฏหมาย ไม่ให้กลับมาทำงานด้านศึกษา และงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กๆอีกคะ * อยากให้ครูทุกคนได้ผ่าน Brush up course จริยธรรม ทุกๆปีด้วยคะ ไม่ทำแค่ผ่านๆ ทำแบบสองสามวันไปเลยคะ

ถ่าเป็นลูกของเเม่ๆหลายท่านรวมเราด้วยก็ ขอตบก่อนเลย เป็นใคามาตีลูกเราขานดลูกเรายังไม่เคยตีเลย จากนั้นเเล้วเเต่ที่ ร.ร. จะพิจจารนาณ์

ไล่ออกและเป็นผู้ที่ไม่สามารถเข้างานหลวงได้อีก เพิ่มอีกอย่างหนึ่งคือติดแบล็กลิสไม่สามารถออกรถหรือผ่อนอะไรได้ชั่วลูกชั่วหลาน

ในความโชคดีคือในเหตุการณ์นี้เด็กไม่เป็นอะไรมาก แต่ก็ผวา สภาพจิตใจเด็กย้ำแย่ ไม่รักในงานก้อย่าทำค่ะ ลูกใครใครก้รัก ก้ห่วง

ใช้นักจิตวิทยาคุยกับเขาจะได้เข้าใจในตัวเขาว่าทำไมถึงทำกับเด็กแบบนั้น สาเหตุจริงๆมาจากอะไรเขาคิดอะไรอยู่

ก่อนอื่นถ้าเป็นลูกแม่เอง เขาทำแบบไหนแม่จะจับครูมาทำเหมือนที่เขาทำกับลูก แล้วแจ้งความเอาเรื่องถึงที่สุด

ถ้าเป็นพี่เลี้ยงลูกของเรานะ ถ้าเป็นแบบนั้นนะถ้าใช้ความรุนแรงอะนะเรานี้แม่จะกระโดดถีบยอดหน้าเลย

ครั้งแรกก็ควรจะให้โอกาสเค้าแก้ตัว แต่ถ้ายังทำพฤติกรรมแบบเดิมอีก ก็คงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายค่ะ