49 ตอบกลับ
แชร์ประสบการณ์ตรงในชีวิต สมัยอายุ 20 ปี เรียนมหาลัยก็ท้องตอนเรียนเหมือนกันค่ะ ตอนนั้นอยู่หอกับแฟน พอรู้ว่าท้อง ไม่คิดจะเอาออกนะคะ ใช้ชีวิตปกติ แฟนก็หางานพิเศษทำหลังเลิกเรียน เพื่อเก็บเงินค่าคลอดและค่าใช้จ่ายตอนหาหมอ ส่วนเราอุ้มท้องไปเรียน ยันคลอด ไม่มีการดรอป เรียนแต่อย่างใด เพียงแค่ใส่เสื้อหนาวตัวใหญ่ๆ ไปเรียน ตอนนั้นรู้สึกว่า ขยันตั้งใจเรียนมากขึ้น เพราะอยากเรียนให้จบ มีลูกเป็นกำลังใจสำคัญ และที่สำคัญไปกว่านั้น ตอนนั้นพ่อแม่ไม่รู้เลยค่ะว่าท้องเพราะปิดเงียบ จนยันคลอด ที่บ้านถึงจะรู้ เพราะกลัวว่าถ้าที่บ้านรู้แล้วจะไม่ได้เรียนต่อ แต่เราก็เรียนจนจบมหาลัย วันเรียนจบเด็กน้อยที่อุ้มท้องเค้าก็อยู่ในงานรับปริญญาของพ่อกับแม่ มันรู้สึกอบอุ่นมาก จนตอนนี้เราอายุ 29 ปี แต่งงาน และกำลังมี น้องตัวน้อยอีกคนกำลังอยู่ในท้อง ทุกวันนีน้องอายุ 8 ขวบ เราเหมือนเป็นทั้งเพื่อนเล่น เป็นทั้งแม่ ในเวลาเดียวกันเพราะเราโตมาพร้อมๆกัน มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเลยค่ะ สู้ๆนะคะ ทุกอย่างมีทางออกเสมอ
เลี้ยงไว้เถอะค่ะ อย่างน้อยฝ่ายชายเขาก็รับผิดชอบ ส่วนเรื่องเรียนหนูลองปรึกษากับคุณครูประจำชั้นหรือครูแนะแนวที่ไว้ใจได้ดูนะคะ หนูสามารถเรียนจนจบได้ แต่ต้องมีกระบวนการช่วยเหลือจากครูที่เกี่ยวข้องและยอมรับได้ และหนูก็ต้องเข้มแข็งและอดทนให้ได้กับการเรียนไปด้วยอุ้มท้องไปด้วยในระบบโรงเรียนปกติ เพื่อนๆเขาสามารถช่วยเหลือในเรื่องภาระงานเราได้ แค่มีคนที่เข้าใจเราและเราไว้ใจ หรือจะเลือกออกไปเรียน กศน.ก็ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับการเลือกและตัดสินใจ และเมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องยอมรับผลของการกนะทำนั้นไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม ก็ต้องสู้ต่อไป ในฐานะครูเจอมาทั้งสองแบบคือเรียนไปด้วยจนจบได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย. และออกจากระบบไปเรียน กศน. นะคะ ยังไงก็ขอให้สู้ๆและอดทนให้มากๆนะคะ
สมัยม.ปลาย มีเพื่อนท้องในวัยเรียนค่ะ เเล้วเค้าเลือกจะเอาออก ด้วยยังเรียนไม่จบ และคงไม่มีกำลังเลี้ยงได้ด้วยตัวเองนอกจากพึ่งพ่อแม่ ทางแฟนเพื่อนก็พร้อมรับผิดชอบ แต่เพื่อนเลือกที่จะไม่เอาไว้ ตัดเรื่องความผิดถูกไปก่อน อยากให้มองความพร้อมจริงๆ ตอนนี้เพื่อนเรียนจบ แต่งงาน มีลูก ด้วยความพร้อมทั้งเวลาและกำลังทรัพย์ มีแรงจะซัพพอร์ตทุกอย่างของลูก เค้าไม่รู้สึกผิดที่เค้าได้ทำในตอนนั้น เค้าบอกว่าหากออกมาตอนยังไม่พร้อมคงจะรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เค้าเกิดมามากกว่า เราก็คงไม่อยากให้ลูกเราลำบาก ไม่มีใครช่วยเราเลี้ยงนะคะ มีแค่คุณและครอบครัวคุณเท่านั้น
จริงๆการเรียนไม่ใช่ปัญหาๆคือคุณดูแลเขาไหวไหม เรียนกศน.ช้าไวคือจบ เรียนสูงกว่านั้นปวช/ปวส.เดี๋ยวนี้มีระบบเรียนเสาร์.-อา.แล้ว เป็นเราๆเก็บไว้อยากให้คุณมองย้อนไปว่าขนาดแม่เรายังเลี้ยงเรามาได้ วันนึงเราเป็นแม่เราก็ต้องเลี้ยงเขาได้ คำว่าพ่อแม่ทำอะไรยังไงก็ที่สุดอยู่แล้ว จะอ่อนแอแค่นี้ไม่ได้หรอก คุณยังอยากใช้ชีวิตทุกวันกินนั้นนี่ เที่ยวได้ไปไหนได้แล้วไม่สงสารลูกหรอ อยากให้วิธีที่แม่ถามเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ #saveความรู้สึกเด็ก
เขาไม่ผิดอะไร อย่าทำร้ายเขาเลยค่ะ มันจะเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต ตอนรู้ว่าท้องก็ไม่พร้อมเหมือนกันค่ะ แต่ทางออกมันจะมาเอง พี่ออกจากมหาลัยตอนกำลังจะขึ้นปี 2 เพราะอะไรไม่รู้เหมือนกันถึงเลือกได้โดยไม่ลังเล แต่ไม่ว่าจะยังไงเชื่อเถอะคลอดแล้วหลงลูกสุดๆ แทบไม่อยากห่างลูกเลย พอได้เป็นแม่คนแล้ว ความคิดจะเปลี่ยนทันทีค่ะ ค่อยๆคิดทบทวน เหนื่อยหน่อยก็อดทนใจนิ่งให้มากๆ แล้วลูกจะมาเติมเต็มทุกอย่างเองค่ะ
ถ้าทางบ้านพร้อม ตัวคุณพร้อม จะเก็บก็ได้ค่ะ แต่ถ้าทางบ้านไม่ไหวก็อย่าเลย แฟนที่บอกจะรับผิดชอบ เขาเรียนจบหรือยัง ทำงานหรือยัง ถ้าแฟนยังเรียนอยู่ก็เผื่อใจด้วยว่าเขาอาจจะทิ้ง อย่าไปฟังใครมากค่ะ คนที่บอกให้เก็บเด็กไว้ เขาไม่ได้หาเงินให้คุณ ไม่ได้ช่วยคุณเลี้ยง ไม่ได้ส่งเสียคุณเรียน แต่ถ้าที่บ้านพร้อมซัพพอร์ตดูแล(บ้านตัวเองเท่านั้นนะคะ ไม่รวมบ้านแฟน)เก็บไว้ก็ไม่เสียหายค่ะ
เก็บไว้เถอะค่ะ ไหนๆก็มีแล้ว เราทานยาคุมกำเนิดนะคะ แต่เราพลาดค่ะมีน้องเหมือนกันค่ะตอนกำลังจะเปิดภาคเรียนช่วงโควิดพอดี เราเรียนชั้นปวส.ค่ะ ตอนแรกที่รู้ว่าตัวเองท้องเราร้องไห้เสียใจมากค่ะ คิดจะเอาออกอย่างเดียว ไม่กล้าบอกใคร กลัวไม่ได้เรียน สุดท้ายตอนนี้เรียนด้วยท้องด้วยค่ะทางครูของเราให้โอกาส หมอนัดคลอดน้อง 22พ.ย.นี้ค่ะ
เก็บไว้เถอะค่ะ สงสารเค้า เราทำเค้าเกิดมาเราต้องเลี้ยงเขาได้สิค่ะ ถ้าเอาออกก็จะเป็นบาปติดตัวนะค่ะ เด็กเขาจำ พ่อเเม่นะค่ะอย่าเอาออกเลย เราเองก็ออกมาเรียน กศน. ตอนนี้น้องคลอดได้9วันเเล้วค่ะ ถ้าตอนนั้นเชื่อเเม่ให้เอาออกคงไม่ได้เจอความสุขที่เปี่ยมไปด้วยความรักเเบบนี้ ตอนนี้เเม่เราพ่อเราหลงมากๆเลยค่ะ
ลองคุยกับที่บ้านแล้วช่วยกันตัดสินใจให้ดีค่ะ คนอื่นให้คำแนะนำดีแค่ไหนแต่ยังไงก็ไม่ใช่ตัวคนที่อุ้มท้องและต้องอยู่กับลูกไปตลอดชีวิตค่ะ พี่ไม่อยากให้การตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตกำหนดจากคำเตือน คำแนะนำของคนอื่น อยากให้ตัวน้องตัดสินใจเลือกสิ่งที่จะเป็นอนาคตของน้องเองค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ถ้าคิดจะพูดคำว่า 'หน้าที่' ควรป้องกันแต่แรก ไม่ใช่มีเขาแล้วคิดจะเอาออกเพราะคำว่าหน้าที่ นี่ท้องตอน 15-16 ก็ยังไม่เอาออก เลี้ยงเป็นซิงเกิ้ลมัมด้วยจนตอนนี้ 9 ขวบแล้ว น้องยังดีค่ะที่เขาและครอบครัวยังรับผิดชอบ คิดให้ดีๆ ดีกว่านะ 1 ชีวิตจากความสนุกของเรา สงสารเขาค่ะ
Anonymous