Privacy PolicyCommunity GuidelinesSitemap HTML
Download our free app
Jaynine's Mommy
ส่งต่อเครื่องปั๊มนมค่า
ยูฮ่าพลัส อุปกรณ์ครบ อะไหล่ไม่เคยใช้ หัก 10% การใช้งาน สภาพดีมาก มีประกันถึงกันยายน 1500฿ สั่งซื้อ add line : pinkchuwyy
แชร์ประสบการณ์การคลอดน้องค่า
สวัสดีค่ะแม่ๆทุกคน หลังจากสิงในโพสทีมตุลามานานมากก วันนี้มีโอกาสได้แชร์เรื่องราวของตัวเองบ้างแล้วค่ะ หวังว่าจะมีประโยชน์กับแม่ๆบ้านอื่นที่ยังไม่คลอดไม่มากก็น้อยนะคะ เริ่มจากตอนเช้าของวันที่ 15 เราตื่นมากินข้าวอาบน้ำแล้วก็เริ่มสังเกตุอาการท้องแข็งตามปกติ แต่ที่ผิดปกติก็คืออาการปวดท้องหน่วงๆคล้ายอาการของคนเป็นประจำเดือนค่ะ เราเลยเริ่มนับเวลาที่มีอาการปวดนี้แบบละเอียด เพราะเนื่องจากเราเป็นคนที่มีอาการท้องแข็งอย่างเดียวที่เป็นเจ็บเตือน แต่เป็นการเจ็บเตือนแบบ ถี่ทุก 5-10 นาที ค่ะ ก่อนหน้าวันที่จะเจ็บครรภ์จริง เรามีอาการเจ็บท้องร้าวลงสะโพกครั้ง 2 ครั้งเท่านั้นเองค่ะ เราจดเวลาการเจ็บเอาไว้ เผื่อมีแม่ๆสงสัยอาการเจ็บของตัวเอง อันนี้เราจดไว้ละเอียดมากๆ เพราะเรากลัวตัวเองแพนิคจะวิ่งไปรพ.ก่อนด้วย และเผื่อห้องคลอดถามอาการจะได้ตอบถูกค่ะ เรามีอาการเจ็บท้องน้อย หน่วงลงขา ร้าวไปถึงสะโพก ซึ่งเราให้คะแนนความเจ็บด้วยตัวเองแบบอาการของคนมีประจำเดือนคือ - ระดับ 1 คือทนได้ ไม่ต้องกินยา - ระดับ 2 คือปวดหน่วง แบบปวดเมื่อย ร้าวๆ กินยา 1 เม็ด - ระดับ 3 คือปวดแบบลงไปนอน ไม่มีแรง ปวดบีบท้อง ต้องกินยา 2 เม็ด ซึ่งอาการมาพร้อมกับเวลาที่ถี่ขึ้นค่ะ ช่วงบ่ายโมงเป็นช่วงที่เราเริ่มปวดระดับ 2 คือปวดหน่วง ร้าวลงสะโพก ลงขา และเริ่มรู้สึกตุงๆที่ปากมดลูก ลฝและมีอาการปวดท้องถ่ายร่วมด้วย เลยโทรไปถามอาการที่ห้องคลอด ซึ่งห้องคลอดก็แจ้งว่าคืออาการเจ็บจริงแล้ว แต่อยากให้มีอาการที่ชัดกว่านี้ และถี่กว่านี้ หรือมีน้ำเดินก่อนแล้วค่อยมานะคะ เพราะถ้าเปิดแค่ 1 เซนอาจจะต้องให้กลับมารอที่บ้าน เราก็เลยรอค่ะ อาการเริ่มเป็นหนักขึ้นและถี่ขึ้นหลังจากบ่ายสอง สุดท้าย สี่โมงครึ่งเราตัดสินใจออกจากบ้านไปรพ. ด้วยอาการปวดแล้วขาสั่น ก้าวไม่ได้ ปวดแบบต้องผ่อนลมหายใจช้าๆ อะไรแบบนี้ค่ะ ไปถึงรพ. 5 โมงกว่าๆ เล่าอาการให้ฟัง ทางห้องคลอดให้เราเปลี่ยนชุดและนอนจับการบีบตัวของมดลูกครึ่งชั่วโมง ซึ่งเราจับใจความได้ว่า มดลูกเราบีบทุกๆ 2.30 นาที ระยะการบีบ 45 วินาที เดี๋ยวรอหมอมาตรวจปากมดลูกกับเชิงกรานประเมินคลอด ตอนที่หมอตรวจปากมดลูก มันค่อนข้างปวด เพราะว่าพอหมอสอดนิ้วเข้าไป หมอก็จะต้องดันให้ถึงปากมดลูกค่ะ คลำๆอยู่เกือบนาที หมอก็บอกว่าเปิดแล้ว 2-3 เซนแต่เชิงกรานเล็กไปหน่อย เดี๋ยวหมอขอเจาะน้ำคร่ำแล้วรอเช็คปากมดลูกอีกที ช่วง 6 โมงเราเลยเตรียมตัวสวนอึ และเจาะน้ำคร่ำค่ะ ช่วงหลังจากสวนอึแล้ว อาการปวดบีบของเราเริ่มรุนแรงขึ้น ก็คือเริ่มที่จะปวดแบบเป็นประจำเดือนระดับ 3 แล้ว แต่ถ้าให้คะแนน 0-10 เราก็ให้ 7 เพราะอาการคือ อยากได้ยาแก้ปวด แต่เราก็ยังสู้ เพราะคิดว่า น่าจะนานมากๆกว่าปากมดลูกจะเปิดถึง 10 เซน ทีนี้หมอก็เข้ามาเจาะน้ำคร่ำให้ แล้วก็บอกว่าจะปวดถี่ขึ้นนะคะ แบบทุกๆ 2 นาที ไอเราก็เตรียมใจแล้ว เรียนรู้เทคนิคการผ่อนผันความเจ็บมาจากยูทูปแล้ว แต่บอกเลยค่ะว่าถึงเวลาจริงๆ ก็ลืมสิ่งที่เรียนมาหมดเลยค่ะ แต่ก็ยังพอประคองสติไว้ได้ ยังสามารถหายใจได้อยู่ แต่ก็มีเรื่องที่ต้องกังวลอีก เนื่องจากเราหายใจรับออกซิเจนไม่เต็มที่ ทำให้น้องหัวใจเต้นเร็วมาก คือสูงไป 170 ทำให้พยาบาลต้องมาใส่สายออกซิเจนให้เรา ซึ่งช่วงหลังเจาะไปได้ 1 ชั่วโมง เรายังพอประคองอาการไปได้ แล้วหมอก็เข้ามาตรวจปากมดลูกอีกครั้งค่ะ ซึ่งตอนนั้นเปิดไปอีกเซน คือ 4-5 แล้ว แต่เชิงกรานเรายังไม่ขยับ หมอเลยตัดสินใจให้เราเข้ารับการผ่า พยาบาลก็เข้ามาเช็คว่าเราทานข้าวมื้อหนักไปตอนไหน ดื่มน้ำครั้งสุดท้ายตอนไหน เพราะต้องอดข้าวอดน้ำ 6 ชั่วโมงก่อนผ่า ซึ่งพอนับย้อนไป เรากินข้าวมื้อหนักตอนบ่ายสอง ดื่มน้ำครั้งสุดท้ายคือก่อนออกมารพ. เลยต้องรอปวดท้องกันยาวๆจนถึง 3 ทุ่ม ซึ่งตั้งแต่ 1 ทุ่มจนถึง 3 ทุ่ม เราไม่ได้ยาระงับการปวดใดๆเลย เพราะเราจะต้องทำการบล็อคหลังและดมยาสลบอ่อนๆ ช่วงที่รอเข้าห้องผ่า เราเริ่มจะหายใจไม่สะดวก เนื่องจากอาการบีบของมดลูก ทำให้น้องยิ่งดิ้นแรงขึ้น แล้วออกซิเจนก็เริ่มส่งไปถึงน้องไม่พอ น้องหัวใจเต้นไปถึง 190 พยาบาลก็มานวดหลังให้เพื่อคลายปวด แล้วก็คอยให้กำลังใจดีมากๆ บอกให้ค่อยๆหายใจนะคะ แม่ต้องอดทนเพื่อน้องนะคะ เดี๋ยวน้องจะช็อคก่อนผ่านะคะ ตอนนั้นคือเราลืมเจ็บไปแล้วค่ะ พยายามหายใจให้ลึกที่สุดเพื่อให้ชีพจรน้องลงมาให้อยู่ในระดับปกติ ซึ่งเราประคองแบบนั้นมา 2 ชั่วโมง ก่อนเข้าห้องผ่าเรายังรู้สึกถึงอาการอยากเบ่งได้อยู่ 3 ครั้ง แต่ก็เบ่งไม่ได้ค่ะ เพราะเชิงกรานเล็ก ยังแอบเสียดายอยู่เลย เพราะตั้งใจจะเบ่งน้องเอง หลังจากเข้าห้องผ่าไป โดนฉีดยาบล็อคหลังไปแล้ว เราก็แค่นอนรอหมอผ่าเอาน้องออกมา พอได้ยินว่าน้องออกมาวันนี้ เวลาเท่านี้ เราถอนหายใจเฮือกเลยค่ะ เพราะว่าน้องแข็งแรงปลอดภัย เสียงใสแจ๋วมาก ส่วนเราก็สลึมสลือเพราะฤทธิ์ยา ได้มาเจอหน้าอีกทีตอนเช้า พยาบาลให้น้องมาเข้าเต้า น้องออกมาน้ำหนักได้ 2860 กรัม ยาว 47 เซน ค่ะ เรียนรู้การดูดไวมากจนพยาบาลชมเลยค่ะ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะะ