อาการที่ว่า คล้ายอาการ overfeeding นะคะ น้องอายุ 1 เดือน กระเพาะอาหารเล็กมากค่ะคุณแม่ น้องควรกินนมทิ้งช่วงห่างมากขึ้นนะคะ น้องแหวะ หมายถึงว่า่ นมที่กินล้นกระเพาะแล้วค่ะ น้องร้องไห้คงต้องฝึกให้น้องรอนะคะ เพราะถ้าร้องแล้วป้อนแบบนี้ น้องจะติดกินมากค่ะ กินแล้วแหวะ หรืออาเจียนบ่อยๆ กรดจากกระเพาะอาหารย้อนออกมาทำให้หลอดอาหารเป็นแผลได้ เพราะเป็นเยื่อบุที่ไม่ได้ทนทานต่อกรดเหมือนเยื่อบุที่กระเพาะอาหาร คุณแม่หาวิธีหลอกล่อก่อนนะคะ ไม่ถึงเวลาป้อนอย่าเพิ่งให้ทานค่ะ
Overfeeding คือการที่ลูกกินนมเยอะเกินไป หรือกินจนล้นกระเพาะ จนแสดงอาการดังต่อไปนี้
นอนร้องเสียงเป็นแพะ เป็นแกะ แอะๆ แอะๆ
บิดตัวเยอะ ร้องเสียงเอี๊ยดอ๊าด คล้ายเสียงประตูไม่หยอดน้ำมัน
มีเสียงครืดคราดในคอ คล้ายเสมหะในคอ แต่เป็นเสียงของนมที่ล้นขึ้นมาที่คอหอยแล้ว
แหวะนม อาเจียนบ่อย ออกมาทางปากหรือจมูก
พุงกางเป็นทรงน้ำเต้าตลอดเวลา
หากเจ้าตัวน้อยของคุณแม่น้ำหนักเพิ่มมากกว่า 35 กรัมต่อวัน หรือ เกิน 1 กก./เดือน แสดงว่าถูก Overfeeding เขาจะอึดอัด ปวดท้อง โยเย ร้องไห้กวน แต่ไม่ใช่เพราะหิว หากคุณแม่ยังให้ลูกกินนมอีก เขาก็จะอาเจียนออกมา เพราะว่านมมันล้นกระเพาะของเขาแล้ว
วิธีป้องกันการ Overfeeding
อย่าให้ลูกกินเยอะเกินไป หลักการให้นมแม่ คือชั่วโมงละ 1 ออนซ์ ถ้าให้ 4 ออนซ์แล้ว ลูกควรจะอิ่มท้องอยู่ไปได้ราว 4 ชั่วโมง
ให้ประเมินว่าลูกอึครบ 2 ครั้ง โดยที่แต่ละครั้งมีปริมาณอึกว้างเท่ากับแกนของม้วนกระดาษชำระ คือ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-5 ซม. หรือจำนวนฉี่ครบ 6 ครั้ง ในหนึ่งวัน (24 ชม.) แสดงว่าได้รับนมเพียงพอ
การที่ลูกไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน หรือทำท่าขยับปากอยากดูดตลอดเวลาไม่ได้เป็นเพราะหิวเสมอไป คุณแม่ไม่จำเป็นต้องให้ลูกกินนมทุกครั้งที่ลูกร้อง ถ้าเห็นลูกพุงกางเป็นน้ำเต้าแล้ว ให้เบี่ยงเบนความสนใจลูกไปที่อื่น เช่น เล่นกับลูก อุ้มเดิน เคลื่อนไหวไปมา ใช้เปลไกว ดูดจุกหลอก ไม่ต้องกลัวติดมือ ติดเปล หรือติดจุกหลอก เพราะจะใช้แค่ช่วง 3-4 เดือนแรก ซึ่งลูกอยู่ในช่วงปรับตัวเท่านั้น
หากลูกต้องการดูดเต้าให้ได้ ควรปั๊มนมออกก่อน เพื่อจะได้ไม่ได้รับปริมาณนมเข้าไปมากเกินไป เพราะจริงๆ แล้วลูกไม่ได้หิว แต่ต้องการดูดเพื่อความพึงพอใจ และรู้สึกผ่อนคลาย
เป็นกำลังใจให้นะคะ
อ่านเพิ่มเติม
หม่่ามี๊ of 1 คนเก่ง ลูกชาย