16 ตอบกลับ
อันนี้เล่าแบบของเรานะคะ ย่าสามีเคยผูกข้อไม้ข้อมือให้เรากับสามีด้วยค่ะ ช่วงเราท้องใกล้คลอด พอดีย่าสามีเราเสียญาติฝั่งสามีก็เข้าใจค่ะ ขนาดย่าเลี้ยงสามีมาตอนเด็กๆ แต่พอญาติฝั่งสามีรู้ว่าเราท้องอยู่ ถึงเราไม่ได้ไปร่วมงาน มีแค่สามีไป ญาติฝั่งสามียังไม่ให้สามีแตะ หรือช่วยยกขนอะไรเลยค่ะ ความเชื่อทางฝั่งสามีเขาค่ะ ถ้าเพื่อนกันจริงๆ ต้องเข้าใจเราค่ะ คนท้องแก่ลำบากแค่ไหน เดิน นั่ง เข้าห้องน้ำบ่อย ภูมิก็ต่ำลงช่วงท้อง แล้วช่วงนี้อากาศร้อนจัดด้วยนะคะแม่ เสี่ยงฮีทสโตรกมาก เป็นลมไปจะลำบากบอกไปตรงๆว่า พ่อกับแม่และสามีไม่อยากให้เดินทางไปที่มีคนเยอะๆค่ะ เขาเป็นห่วง โควิดก็กลับมาระบาดแบบเงียบๆ ถึงไม่รุนแรงเท่าเก่า แต่คนท้อง คนแก่ คนมีโรคประจำตัวยังอยู่ใน 608 กลุ่มอ่อนไหวนะคะ ถ้าแม่ไม่สบายใจยังไง ขอเลขบัญชีเขาร่วมทำบุญไปดีกว่าค่ะ หรือก็ลองพิจารณาความปลอดภัยดู แล้วแต่แม่นะคะ
ไม่ต้องไปค่ะบอกไปว่าเดินไม่ไหวถ้าเขาเซ้าซี้ก็ปัดๆไปถ้าเขาเป็นเพื่อนสนิทเราจริงเขาต้องเข้าใจค่ะถึงจะมารับก็ต้องไปนั่งอากาศก็ร้อนคนก็เยอะคนท้องร้อนกว่าคนปกติด้วยเรารู้ซึ้งเลยค่ะเราท้องได้เดือนครึ่งแต่ยายเสียแล้วเป็นช่วงสงกรานต์พอดีร้อนมากจะไม่ไปก็ไม่ได้ยายเลี้ยงเรามา สภาพเราคือทั้งเจ็บหน่วงท้องน้อยทั้งขาบวมเพราะอากาศร้อนหิวแต่น้ำเวียนหัวอีกนึกว่าจะขิตทั้งแม่ทั้งลูกละถ้าไม่ใช่ยายตัวเองงานคนอื่นเราคงไม่ไปเขานั่งเก็บกระดูกยายกันเรายังนั่งดมยาดมอยู่เลยค่ะไม่ไหว😅
ไม่ไปค่ะ เพราะท้องแก้อะไรก็เกิดขึ้นได้ในระวังเดินทางนั่งรถไปเราไม่ชนเขา เขาก็อาจจะมาชนเราได้ ต้องเอาความปลอดภัยมาอันดับแรกค่ะ และในส่วนเรื่องความเชื่อคิดว่าคนท้องอาจจะเป็นช่วงที่คิดมากคิดเยอะ จบเจอหรือเห็นอะไรแว๊บๆอาจจะเอาเก็บไปคิดวิตกกังวลจนร่างกายป่วยได้ บ้านนี้พ่อแฟนเสียตอนเราท้องได้5เดือนค่ะ เราไปวัดแต่หนีไปนั่งบริเวณอื่นที่ห่างจากโรง พอยกโรงขึ้นเราถึงเดินไปหาแฟนหาอะไรกินค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ ทุกคนในบ้านคือไม่มีใครอยากให้ไปเลยสักคน ความปลอดภัยลูกต้องมาที่่ 1 จริงๆค่ะ
ไม่ควรไปค่ะแม่ ท้องใกล้คลอดจะเดินทางไปไหนก็ลำบากเกิดอะไรขึ้นมา หรือปวดท้องคลอดกระทันหัน ชีวิตตัวน้อยและคุณแม่สำคัญที่สุดค่ะ ส่วนเพื่อนถ้าบอกปัดไปก็น่าจะเข้าใจกันได้ยิ่งเป็นเพื่อนสนิท ส่วนตัวถ้าไม่จำเป็นเราไม่ค่อยไปงานพวกนี้เท่าไหร่ค่ะนอกจากจะเป็นงานคนในครอบครัวถึงไปช่วยงานนิดหน่อยเราท้องด้วยอะไรด้วยไม่สมควรไปเท่าไหร่ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ ทำให้เราตัดสินใจได้อบบไม่ลัวเลเลยค่ะตอนนี้
ถ้ายังคบอยู่จนถึงปัจจุบันเราไปค่ะ ไม่เชื่ออะไรทั้งนั้น แต่ถ้าห่างหายกันไปแล้วไม่ไปอะ ไปก็เก้ๆกังๆทำตัวไม่ถูก ท้องโตคนมองทั้งงานไม่รู้จักใครอีกต่างหาก เพื่อนจะอยากให้ไปอะไรขนาดนั้น แปลกๆ คนปฏิเสธไปแล้วแท้ๆ แม่อยากเจอก็เจอวันอื่นก็ได้มะ มาเยี่ยมคลอดก็ได้ จะมาทักทายถามสารทุกข์อะไรกันที่งานศพ แปลก
ไม่ไปค่ะ วันพระไม่ได้มีหนเดียว เราไปงานศพพ่อไม่ทัน แต่ก็ไม่ได้นึกเสียใจ เพื่อนควรนึกถึงร่างกายกับลูกเราบ้างนะคะ ขึ้นรถขึ้นรา จะคลอดขึ้นมาใครก็อยากให้สามีอยู่ข้างๆ เขาจะรับผิดชอบเราซักแค่ไหนกันเชียว ส่งถึงมือหมอทันไหม ถ้าเดิรทางไกล ก็ เกรงใจตัวเองบ้างค่ะ
ท้องแก่แล้ว คิดถึงตัวเองกับลูกเยอะๆ อันตรายค่ะ เชื่อพ่อแม่และแฟนดีกว่า บ้านเราก็เชื่อเรื่องแบบนี้เหมือนกัน เวลาจะไปไหน ถ้าเราถูกคนในบ้านห้ามเราจะฟังและไม่ไปค่ะ คลอดเสร็จค่อยไปก็ได้ เข้าใจน่ะว่าเป็นเพื่อนกันแต่แม่ท้องอยู่น่ะค่ะ
ขอบคุณมากค่ะแม่ที่แนะนำ
นาทีนี้ ครอบครัวและลูกสำคัญที่สุดแล้วค่ะ สำหรับเราคนเหนือ คนท้องไม่น่าไปงานแบบนี้ด้วยค่ะ เพื่อนกันต้องเข้าใจเราค่ะ แต่ถ้าไม่เข้าใจ ก้ปล่อยเค้าค่ะ เค้าไม่ได้อยู่กับเราตลอดเหมือนครอบครัวของเรา หาคำปฏิเสธที่ซอฟที่สุดกับเขาค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ พ่อแม่เราก็ไม่อยากให้เราไปค่ะ ยิ่งแม่เราเค้าเชื่อด้านนี้มากๆเลย
ไม่ไปค่ะ ใกล้คลอดมากๆแล้ว คุณแม่อาจจะคลอดตอนไหนก็ได้ ลูกน้อยและคุณแม่สำคัญที่สุดค่ะ เราว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ค่ะ ยิ่งเพื่อนสนิทยิ่งต้องเข้าใจค่ะ
ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำ ลึกๆเราก็ไม่ค่อยอยากไปค่ะ แต่มันมาติดตรงที่เคยสนิทกันมาก่อนนี่แหละค่ะ
ไม่ควรไป ไม่เกี่ยวกับความเชื่อใดๆ แต่เพราะท้องแก่แล้ว เดินเหินลำบาก ไหนจะอากาศร้อน คนเยอะเชื้อโรคอีก และการเดินทางก็เสี่ยงทำให้คลอดด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากเลยค่ะแม่ ตอนเเรกเราก็รู้สึกผิดว่า เอ๊ะเราไม่ไปงานพ่อเพื่อนจะเป็นไรไหม แต่เเม่ๆทุกคนเตือนสติเรา เราต้องห่วงลูกกับตัวเองเป็นหลักก่อนสิ
Anonymous