1 ตอบกลับ

ก็ดีน้ะคะ มีเข็ม3ปีกับ5ปี แค่จะปวดแขนช่วงที่ทำเสร็จใหม่ๆประมาณ14วันได้ค่ะ หากทำการฝังยาคุมกำเนิดในช่วง 5 วันแรกที่มีประจำเดือน ยาจะสามารถออกฤทธิ์คุมกำเนิดได้ทันที แต่หากฝังหลังจากนั้น หรือหลังหมดประจำเดือน ยาจะสามารถคุมกำเนิดได้หลังการฝังอย่างน้อย 7 วัน ในระหว่างนี้ หากมีเพศสัมพันธ์จึงควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย **ข้อดีน้ะคะ สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีกว่าการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น รวมถึงไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยหรือรับประทานยาคุมร่วมด้วย คุมกำเนิดได้ยาวนานถึง 3-5 ปี เป็นวิธีที่ปลอดภัย จึงสามารถทำได้หลังคลอดบุตร หรือระหว่างให้นมบุตร โดยไม่เป็นอันตรายต่อแม่และเด็ก ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนในช่วงปีแรกหลังฝังยาคุมกำเนิด อีกทั้งช่วยให้ปริมาณประจำเดือนน้อยลงด้วย ผลจากฮอร์โมนทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ช่องคลอดได้ยากขึ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานได้ ลดความเสี่ยงต่อความผิดปกติต่างๆ เช่น การท้องนอกมดลูก และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ฮอร์โมนจะกระจายในปริมาณน้อย และไม่เกิดการสะสมในร่างกาย หลังนำยาฝังคุมกำเนิดออกจึงสามารถกลับมาตั้งท้องได้เร็วกว่าการฉีดยาคุม ไม่ส่งผลต่อการทำงานของตับ เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานแล้วลืมบ่อย และผู้ที่แพ้ฮอร์โมนเอสโตรเจน ผลข้างเคียงของยาฝังคุมกำเนิด หลังฝังยาคุมกำเนิดอาจพบเลือดออกกะปริบกะปรอยในช่องคลอด หรือมีตกขาวมาก ในบางรายอาจต้องทานยาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเพื่อลดอาการเลือดออก ในช่วง 3 เดือนแรก อาจมีอาการปวดท้องน้อยและประจำเดือนขาด ฮอร์โมนอาจส่งผลให้มีอารมณ์แปรปรวน สิวขึ้น คลื่นไส้ เจ็บคัดเต้านมได้ ในช่วงแรกมักมีอาการปวดแผลบริเวณที่ฝังยาคุม และผิวหนังส่วนนั้นอาจเกิดแผลเป็นได้ การฝังและถอดยาคุมอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่แผล จนแผลบวมแดง อักเสบ เป็นหนอง ซึ่งพบได้น้อย ข้อเสียของยาฝังคุมกำเนิด การฝังและถอดยาคุมกำเนิดอาจรู้สึกเจ็บ และต้องให้แพทย์เป็นผู้กระทำ ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ประจำเดือนอาจมาไม่ปกติ ในช่วงปีแรกของการฝังยาคุมกำเนิด หลอดยาที่ฝังอาจเลื่อนหลุดจากตำแหน่งเดิม จนต้องเปิดแผลเพื่อแก้ไขใหม่  ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ยาบางชนิดมีผลต่อประสิทธิภาพของการคุมกำเนิด โดยเฉพาะยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวี ยารักษาวัณโรค และยากันชัก

ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้ดีมากเลยค่ะ

คำถามยอดฮิต