#ประสบการณ์ผ่าคลอดบล็อกหลัง

วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การผ่าคลอดบล็อกหลังค่ะ เดิมก่อนจะคลอดเราเป็นไทรอยด์เป็นพิษค่ะ ค่าไทรอยด์สูงมากเกิน 30 ต้องกินยาระงับไทรอยด์วันละ 12 เม็ด รวมกับยาบำรุงครรภ์ เท่ากับวันหนึ่งต้องกินยา 14 เม็ดต่อวัน พอช่วงไตรมาส 3 ค่าไทรอยด์กลับมาเป็นปกติแต่อัตราการเต้นของหัวใจยังคงเร็วอยู่ ต้องให้คุณหมอทั้งด้านไทรอยด์และด้านสูติประเมินวิธีการคลอด ผลสรุปคือได้ผ่าคลอดค่ะ(ที่ได้ผ่าหมอกลัวอัตราการเต้นของหัวใจสูงแล้วจะเกิดอันตรายต่อแม่และลูก) พอรู้ว่าจะต้องผ่าก็ศึกษาหาข้อมูล หาอ่านจากประสบการณ์ของแม่ท่านอื่น บ้างก็ว่าไม่เจ็บ บ้างก็ว่าเจ็บมาก เจ็บจนทนไม่ไหว ไหนจะเอฟเฟคต่างๆที่จะตามมา จากหาข้อมูลกลายเป็นเริ่มจิตตก กลัวไปหมดทุกสิ่งอย่าง จนคนที่บ้านต้องดึงสติ พอถึงวันผ่าคลอด ตื่นเต้นมากค่ะ หัวใจเต้นแรงมาก หวาดหวั่น กลัวไปหมด ไม่รู้ว่าทุกรพ.จะเป็นเหมือนกันมั้ยนะคะ แต่ของเราคือ เราได้คิวผ่าบ่ายโมง งดน้ำงดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืนของวันผ่า ช่วงเช้าพยาบาลจะนำยาสวนทวาทมาเสียบให้เผื่อให้เราขับถ่ายออกให้หมด และนำสายสวยปัสสาวะมาใส่ให้ ขั้นตอนนี้เราไม่เจ็บเลยค่ะ พยาบาลไม่ได้มือเบานะคะ มีแค่ความรู้สึกขัดๆเวลาเดินเท่านั้นเอง พอใกล้ถึงเวลา บุรุษพยาบาลจะมารับเราไปรอที่ห้องรอผ่าเขาจะให้ถอดทุกอย่างเลยค่ะ เสื้อในกางเกงใน เครื่องประดับ แว่นตา ยางรัดผม ก็คือเข้าไปแค่ตัวเปล่าๆกับเสื้อผ้าที่รพ.เตรียมให้ จะมีพยาบาลมาเช็คข้อมูล สอบถามข้อมูลเราก่อนจะพาเข้าห้องผ่า พอเข้าห้องผ่า สัมผัสแรกคือเย็นมากค่ะ จากนั้นจะมีพยาบาลเข้ามารุมล้อมเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสายน้ำเกลือ ติดคลื่นวัดหัวใจ เปลี่ยนชุด ใส่ผ้าอนามัย ใส่สายอ็อกซิเจน บรรยากาศในห้องคือสบายๆ พยาบาลคอยชวนคุย หัวเราะ เฮฮามากค่ะ พอเสร็จแล้วหมอที่เราฝากครรภ์ไว้ก็มา พยาบาลก็จะบอกข้อมูลของเราให้หมอทั้งหมด จากนั้นก็จะเข้าสู่ช่วงผ่าแล้วค่ะ เริ่มต้นเขาจะจับเราตะแคง แล้วจัดท่าเป็นเหมือนคนงอตัวค่ะ จะมีพยาบาลช่วยด้วย จากนั้นเราจะรู้สึกว่ามีเข็มทิ่มเข้ามาที่บริเวณกระดูกสันหลัง ค่อนข้างที่จะเจ็บค่ะ แต่มันเจ็บพอทนได้ เสมือนตอนเราโดนเข็มให้น้ำเกลือ จากนั้นจะรู้สึกชาวาบที่ขาแล้วความรู้สึกที่ขาก็เริ่มหายไปค่ะ หมอจะปล่อยเวลาสักระยะ จากนั้นพยาบาลจะถามว่ายังรู้สึกมั้ย เหมือนจะเอาอะไรจิ้มเราสักอย่าง พอเราบอกไม่รู้สึก พยาบาลก็เริ่มทำความสะอาดหน้าท้องเรา พอเข้าสู้ช่วงที่ผ่า เรารู้สึกหมดเลยนะคะ รู้สึกถึงมีดที่กรีดแต่ไม่มีความเจ็บปวด รู้สึกถึงการกดท้องเพื่อที่จะดันตัวลูกเราออกมา ใช้เวลาไม่นานค่ะ จากนั้นเราก็ได้ยินเสียงลูกเราร้อง หมอบอกลูกสมบูรณ์ แข็งแรง เสียร้องดังลั่นห้องเลย แล้วเราก็ไมรับรู้อะไรอีก เพราะเสียงร้องของลูกมันก้องอยู่ในหัว น้ำตาปริ่มเลยค่ะ หลังจากคลอดเสร็จ เย็บแผลเสร็จ เขาจะให้เราอยู่ในห้องพักฝืนเพื่อรอดูอาการ ถ้าไม่น่าจะเป็นห่วงเราก็จะได้กลับห้องพักของเราค่ะ ช่วงเวลาหลังจากผ่าเสร็จมันจะตึงๆที่แผล พอเวลาผ่านไปอาการชามันก็จะค่อยๆหาย บวกกัอาการเจ็บแผลก็จะมีมากขึ้น แต่ใันเป็นการค่อยๆเพิ่มระดับความเจ็บ เรารับรู้ถึงมันตลอดเวลา ทำให้รู้สึกว่ามันไม่เจ็บ เราคุยกับครอบครัวเราตั้งแต่ออกจากห้องผ่า ไม่มีการเพลียใดๆทั้งสิ้น หนักหนาสุดคือช่วงที่ต้องลุกและต้องเดิน ตอนลุกมันเจ็บพอทนได้ค่ะ มีเสียดๆนิดหน่อย แต่ตอนต้องลุกเดินคือแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ มันเจ็บมากค่ะ เจ็บจนน้ำตาไหล แต่ต้องฮึบค่ะ เราสู้มากเพราะกลัวแผลเป็นพังผืด แต่ต้องขอบคุณตัวเองที่ยอกฮึดสู้ หลังผ่าคลอดเราสามารถเดินได้เร็ว ฝื้นตัวเร็วมากไม่ถึง 24 ชั่วโมง ถึงจะเป็นการเดินช้าๆก็ตาม เป็นความเจ็บปวดที่สวยงามจริงๆค่ะ เราใช้เวลาประมาณ 8 วันค่ะ ที่สามารถเดินคล่องเดินได้ไวเหมือนเดิม น้ำคาวปลาก็มาแค่ 8 วัน หยุดก่อนหมอนัดเปิดแผลผ่า 1 อาทิตย์ ส่วนประจำเดือนเว้นระยะไปแค่ 3 เดือนก็มาแบบเทน้ำเลยค่ะ 😅 นี่ก็เป็นเรื่องราวของเรา ความเจ็บปวดของเราไม่สามารถเป็นตัวตัดสินของแม่ๆท่านอื่นได้นะคะ เพราะคนเราไม่เหมือนกัน ขอเป็นกำลังใจให้แม่ๆทุกท่านที่กำลังจะผ่าคลอดนะคะ ❤️🙏🏻

1 ตอบกลับ

บล็อกหลังท่าเดียวกันเลยแม่แต่เราไม่รู้สึกตอนฉีดยาค่ะ จุกอกเจ็บท้องมากกว่า 🤣 ส่วนตอนลุกคือเจ็บจริงเจ็บหนักไล่จากไหล่ลงเท้าเลย สุดมาก แต่เราไม่ค่อยเจ็บแผลเพราะผ่าไส้ติ่งด้วยเลยเจ็บข้างในมากว่า เลี้ยงลูกเองเดินทำนั่นนี่ตลอด 10 วันวิ่งปรื๋อ

คำถามที่เกี่ยวข้อง

คำถามยอดฮิต

บทความเกี่ยวข้อง