นมสเตอริไรส์ นมพาสเจอร์ไรส์ กับ uht ต่างกันอย่างไร ให้ลูกกินนมแบบไหนดี

ความแตกต่างของนมทั้ง 3 รูปแบบ คือการผ่านกรรมวิธีการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน(Heat Treatment)ค่ะ เพื่อทำลายจุลินทรีย์ รวมถึงเอนไซม์ต่างๆ ที่ไม่ต้องการให้มีอยู่ในนม เช่น เอนไซม์ไลเปส ที่ทำให้เกิดกลิ่นหืนในนมและช่วยยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มให้ยาวนานขึ้น ซึ่งก้แล้วแต่ว่าผู้ผลิตจะใช้กระบวนการฆ่าเชื้อด้วยวิธีการใด ซึ่งได้แก่ - กระบวนการพาสเจอร์ไรส์ (Pasteurization) การฆ่าเชื้อวิธีนี้สามารถทำลายเอนไซม์ต่าง ๆ รวมทั้งจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค ดังนั้นนมที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อนี้จะมีคุณค่าสารอาหารเกือบเท่ากับ น้ำนมก่อนผ่านการฆ่าเชื้อ ตลอดจนรสชาติของนมจะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ น้ำนมตามธรรมชาติมากกว่าวิธีอื่น แต่สำหรับเด็กเล็กระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงพอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถรับเชื้อโรคบางชนิดที่ทำลายไม่หมดด้วยวิธีการนี้อาจท้องเสียได้ค่ะ -กระบวนการสเตอริไลส์ (Sterilization) วิธีนี้สามารถทำลายจุลินทรีย์ตลอดจนเอนไซม์ทุกชนิดที่อยู่ในนมพร้อมดื่มที่บรรจุในภาชนะปิดสนิทได้ โดย ใช้อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 100 องศาเซลเซียส โดยใช้เวลาที่เหมาะสม วิธีนี้จะทำให้สี กลิ่น รสของนมเปลี่ยนแปลงไป เกิดกลิ่นนมต้มไหม้ (Over cooked) ขึ้น สีนมออกเหลือง และทำให้วิตามินบางตัวที่อยู่ในน้ำนมดิบลดลง เช่น โฟลิคแอซิด วิตามินบี 1 และวิตามินซี เป็นต้น - กระบวนการ ยู เอช ที (Ultra High Temperature) วิธีนี้จะสามารถทำลายเชื้อจุลินทรีย์ได้เกือบหมด โดยต้องใช้ความร้อนไม่ต่ำกว่า 133 องศาเซลเซียส เวลาไม่น้อยกว่า 1 วินาที แล้วบรรจุในภาชนะและในสภาวะที่ปราศจากเชื้อ องศาเซลเซียส การฆ่าเชื้อวิธีนี้จะได้ นมพร้อมดื่มที่ได้จะมีกลิ่น-รสบริสุทธิ์กว่านมพาสเจอร์ไรส์ เนื่องจากสามารถขจัดกลิ่นอาหารสัตว์ กลิ่นฟางได้ดี นอกจากนี้น้ำนมยังมีสีขาวกว่า และสารอาหารยังไม่ถูกทำลายมากเท่ากับกระบวนการสเตอร์ริไลซ์ ดังนั้นยังมีคุณค่าทางอาหารพอๆกับกระบวนการพาสเจอไรซ์ จึงเหมาะสำหรับเด็กอายุ 1ขวบปีขึ้นไป ส่วนน้องอายุ 5 ขวบแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงขึ้น หากน้องทานนมพาสเจอไรซ์แล้วไม่มีอาการท้องเสีย ก้สามารถทานได้ เพราะคุณภาพนมสดกว่ากระบวนการอื่นๆค่ะ