อย่างแรกมักเกิดจากขนาดของมดลูกที่ขยายตัวขึ้นในขณะตั้งครรภ์ ส่งผลให้ไปกดทับหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ซึ่งจะต้องไหลเวียนย้อนกลับไปที่หัวใจทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ ทำให้เลือดเกิดการคั่งอยู่บริเวณส่วนล่างของร่างกาย และอย่างที่สอง ขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์ จะมีฮอร์โมนเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เนื้อเยื่อต่างๆ มีการดูดซึมน้ำมากกว่าปกติ ทั้งยังกักเก็บน้ำไว้มากกว่าปกติด้วย จึงทำให้เกิดอาการมือเท้าบวม ตัวบวมขึ้นมาได้ นอกจากอาการนิ้วบวมมือบวมตามปกติที่ไม่มีอันตรายร้ายแรงแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ควรระมัดระวังเพิ่มเติม ด้วยการสังเกตสัญญาณเตือนอื่นๆ จากอาการบวมแบบผิดปกติ ซึ่งจะเกิดขึ้นจากภาวะครรภ์เป็นพิษ โดยจะมีลักษณะบวมของผิวบนร่างกายแบบกดบุ๋ม คือ เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ กดผิวเนื้อและเกิดการบุ๋มคงสภาพไว้ไม่คืนตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาการบวมดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งภาวะขาบวม มือบวม หรือหน้าบวม โดยมักมีอาการร่วมกับ ความดันโลหิตสูง โปรตีนรั่วในปัสสาวะ นอกจากนี้ยังมีอาการสำคัญของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ควรสังเกต คือ อาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว และปวดจุดแน่นลิ้นปี่ หากมีอาการแบบนี้ควรรีบปรึกษาแพทย์