ท้อง.8เดือนแล้วแต่รุ้สึกปอดท้องถ่ายบ่อยมากแม่ๆท่านไหนเป็นบ้างค่ะ
ตอนนี้เราท้แงได้8เดือนรึ 33w4d ปวดท้อง ถ่ายบ่อยวันนึ่งประมาน2-3ครั้ง. มีแม่ท่านไหนเป็นบ้างค่ะ..
าการแบบไหนต้องรีบไปพบคุณหมอ หากแม่ท้องมีอาการท้องเสียในลักษณะอุจจาระมีมูกปน มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ คล้ายของเน่า คลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง มีไข้สูงเกินกว่า 38.5 องศาเซลเซียส อ่อนเพลียมาก หรือมีอาการนานกว่า 48 ชั่วโมง อาการท้องเสียในลักษณะนี้ แม่ท้องไม่ควรซื้อยามากินเอง เพราะถ้าอาการรุนแรง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และควรรีบไปพบคุณหมอโดยด่วน ตั้งครรภ์ ท้องเสีย ปวดท้องบิด อาการแบบนี้ ส่งผลอย่างไรกับลูกในท้อง ติดตามต่อหน้าถัดไป – – – -> > > ตั้งครรภ์ ท้องเสีย ปวดท้องบิด อาหารเป็นพิษหรือเปล่า อาการที่บ่งบอกว่าอาหารเป็นพิษนั้น สังเกตได้โดย หลังจากที่ทานอาหารที่ไม่สะอาดเข้าไป เชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัว ทั้งนี้ จะเร็วหรือช้า ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารที่ทานเข้าไป และภูมิคุ้มกันร่างกายของแต่ละคน ซึ่งโดยส่วนมากจะพบว่าเกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ ตั้งแต่ 2-6 ชั่วโมง หลังจากที่ทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ไม่สะอาดเข้าไป ซึ่งคุณแม่ท้องสามารถสังเกตตัวเอง ที่บ่งบอกได้ว่า อาการอาหารเป็นพิษกำลังขึ้น ได้จากอาการเหล่านี้ ได้แก่ ท้องเสีย ปวดท้องมาก มีลักษณะการปวดท้องแบบบิด ๆ มีอาการคลื่นไส้ และอาเจียนร่วมด้วย มีอาการครั่นเนื้อ ครั่นตัว ตัวร้อน เป็นไข้ร่วมด้วย มีอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยเนื้อตัว กล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย หากคุณแม่ท้อง สังเกตได้ว่า ตนเองมีอาการ ของอาหารเป็นพิษเกิดขึ้น อันดับแรก ให้รีบไปพบคุณหมอโดยเร็ว เพื่อรักษาอาการให้บรรเทาลง และหายป่วยจากอาก
อ่านเพิ่มเติมอาการท้องเสีย มีกี่แบบ อาการท้องเสีย สามารถแบ่งตามลักษณะของอุจจาระได้ 2 แบบ คือ อาการท้องเสียที่ถ่ายเป็นมูกเลือด โดยมักมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดท้อง หรือปวดเบ่งที่ทวารหนัก ถ่ายบ่อย และมีปริมาณอุจจาระที่ออกในแต่ละครั้งไม่มากนัก อาการท้องเสียที่ถ่ายเหลว หรือเป็นน้ำ สีเหลือง หรือเขียวอ่อน ในรายที่เป็นรุนแรง อาจเป็นน้ำขุ่นขาว คล้ายน้ำซาวข้าว ท้องเสียตอนท้อง รับมืออย่างไร ควรดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป หากไม่อ่อนเพลียมาก ยังพอทานอาหารอ่อนได้ ก็ไม่จำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ เพื่อรักษาสมดุลของน้ำ และแร่ธาตุในร่างกาย หากมีอาการอ่อนเพลีย และไม่สามารถทานอาหารได้ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ และเกลือแร่ จึงควรทดแทนด้วยการดื่มน้ำเกลืออิเล็คโตรไลท์ หรือ โอ.อาร์.เอส หลีกเลี่ยงนมสด คาเฟอีน อาหารไขมันสูงย่อยยาก ๆ และอาหารทะเล เมื่อแม่ท้องมีอาการท้องเสีย ไม่จำเป็นต้องทานยาให้หยุดถ่ายเสมอไป เพราะการขับถ่ายเป็นการระบายเชื้อโรค และของเสียออกจากร่างกาย การใช้ยาบางชนิด เพื่อหยุดการขับถ่ายในทันที อาจทำให้เชื้อโรคถูกกักอยู่ในร่างกาย และอาจมีผลเสียตามมา รวมถึงการทำให้อาการต่าง ๆ หายช้าลงได้ ถ้าท้องเสียเนื่องจากการติดเชื้อ ยาฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยควรเป็น แอมพิซิลลิน หรือ อม๊อกซิซิลลิน ไม่ควรใช้ยาที่ไม่ปลอดภัยในกลุ่มยาแก้อักเสบ พักผ่อนมาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ
อ่านเพิ่มเติมอะไรทำให้คนท้องท้องเสีย อาการท้องเสียระหว่างตั้งครรภ์นั้น อาจมาจากสาเหตุต่าง ๆ เหล่านี้ ได้แก่ เกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารที่เปลี่ยนไปของแม่ท้อง ซึ่งบางครั้ง อาจจะทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน หรือเกิดอาการท้องเสียได้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งบางครั้ง ฮอร์โมนก็อาจจะเป็นสาเหตุให้กระบวนการย่อยอาหารชะงักลง จนทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ เกิดจากอาการทางอารมณ์ และจิตใจ เช่น ตื่นเต้น มีความวิตกกังวล ต้องเดินทาง ถ้าแม่ท้องท้องเสียจากสาเหตุนี้ มักจะเป็นไม่มาก อาจบ่อย และเรื้อรัง แต่สุขภาพของร่างกายโดยทั่วไปยังคงปกติดี เกิดจากการกินอาหารที่ไม่สะอาด เช่น กินผักสดที่ล้างไม่สะอาด อาหารที่มีแมลงวันตอม อาหารทะเลที่ไม่สด ดื่มน้ำที่ไม่สะอาด และไม่ได้ต้มสุก เป็นต้น จนเกิดอาการอาหารเป็นพิษ ทำให้ท้องเสีย ปวดท้องบิด อาการท้องเสีย อาจเกิดจากการที่แม่ท้องบางคน มีความไวต่ออาหารอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งอาจเป็นอาหารที่ปกติทานบ่อย ๆ แต่พอเมื่อทานอาหารชนิดเดียวกันนี้ ในระหว่างตั้งครรภ์ กลับทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน หรือมีอาการท้องเสียได้ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือโรคติดเชื้อต่าง ๆ เช่น บิด ไทฟอยด์ อหิวาต์ การติดโรคพยาธิบางชนิด เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม