คำถามที่คาใจมานาน"""ถ้าเเม่พักผ่อนน้อยรึเครียด เข้าใจสุขภาพทั้งเเม่ลูกอาจไม่เเข็งเเรง เเล้วถ้าเเม่นอนดึกรึไม่ได้หลับ ลูกจะหลับไหมในท้องรึเเม่เปนงัยลูกเปนตามกัน อยากรุ้มาก

1 ตอบกลับ
undefined profile icon
เขียนข้อความตอบกลับ

นักวิจัยสหรัฐเตือนคุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งมือเก่าและมือใหม่ควรนอนคืนละ 8 - 9 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะ 14 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ เผยหากนอนน้อยกว่าคืนละ 5 ชั่วโมงเสี่ยงต่อการถูกโรคต่าง ๆ รุมเร้าตลอดการตั้งครรภ์ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อตนเองและทารกในครรภ์ในที่สุด เหตุที่นักวิจัยระบุเช่นนี้เพราะในระหว่างนอนหลับพักผ่อน ความดันโลหิตของมนุษย์จะลดลงโดยเฉลี่ยประมาณ 10 - 20 เปอร์เซ็นต์ ผ่านการควบคุมของฮอร์โมนสองตัวคือ Endothelin และ Vasopressin ซึ่งฮอร์โมนทั้งสองทำหน้าที่ควบคุมดูแลขนาดของหลอดเลือดทั่วร่างกาย ดังนั้น เมื่อหญิงมีครรภ์นอนไม่หลับ หรือหลับแต่ไม่เพียงพอจึงมีผลกระทบต่อการผลิตฮอร์โมนสองตัวดังกล่าว ดังนั้นผู้ที่นอนหลับไม่พอในตอนกลางคืนจึงมีค่าความดันโลหิตสูงกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งแม้จะเป็นตัวเลขไม่มากนัก แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจในระหว่างการตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ดี นักวิจัยยังพบด้วยว่า ในผู้หญิงตั้งครรภ์ที่นอนนานเกิน 10 ชั่วโมงก็มีความดันโลหิตสูงเช่นกัน ซึ่งในกรณีนี้นักวิจัยไม่แน่ใจว่ามาจากเหตุใด แต่คาดว่าอาจมีความสัมพันธ์กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ภาวะซึมเศร้า ฯลฯ "โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงตั้งครรภ์ต้องการการนอนหลับพักผ่อนคืนละ 7 - 9 ชั่วโมง การนอนน้อยกว่าที่ควรจะเป็นจะส่งผลต่อสุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" ดร.มิเชล วิลเลี่ยม นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เจ้าของงานวิจัยชิ้นนี้กล่าว "ปัจจุบันผู้หญิงตั้งครรภ์ดูแลตัวเองดีขึ้น มีการบำรุงด้วยอาหารการกินและการออกกำลังกาย แต่ต้องยอมรับว่าการนอนหลับพักผ่อนก็มีความสำคัญ และจำเป็นต้องได้รับการใส่ใจเช่นกัน" ระดับความดันโลหิตสูงยังอาจส่งผลต่อหญิงตั้งครรภ์ให้เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษได้ด้วยเช่นกัน โดยหญิงตั้งครรภ์ที่นอนน้อยกว่าคืนละ 5 ชม. มีโอกาสเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษสูงกว่าปกติถึง 9.5 เท่า ด้านผู้ที่นอนนานกว่า 10 ชั่วโมงก็มีโอกาสเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษเช่นกัน แต่มีโอกาสเสี่ยงน้อยกว่า เพียง 2 เท่า การวิจัยครั้งนี้มีหญิงตั้งครรภ์เข้าร่วม 1,272 คน โดยทุกคนต้องแจ้งข้อมูลส่วนตัว รูปแบบการใช้ชีวิต รวมถึงพฤติกรรมการนอนด้วย ดร.แมรี่ รอสเซอร์ สูตินรีแพทย์จาก Montefiore Medical Center กล่าวว่า "งานวิจัยชิ้นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวิจัยชิ้นต่อ ๆ ไป เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า มีการเปลี่ยนแปลงมากมายตลอดการตั้งครรภ์ที่อาจส่งผลต่อระดับความดันโลหิต เช่น น้ำหนักขึ้น แต่น้ำหนักขึ้นเพียงอย่างเดียวไม่อาจส่งผลกระทบต่อความดันโลหิตได้มากนัก" พร้อมกันนี้ ดร.รอสเซอร์ได้ยังแนะนำหญิงตั้งครรภ์ให้หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และควรออกกำลังกายตามสมควรด้วย เพื่อจะได้นอนหลับสนิทในเวลากลางคืน เรียบเรียงจากเดลิเมล และ LiveScience

อ่านเพิ่มเติม