แม่สามีแนะนำมา....... ขอความคิดเห็นหน่อยค่ะ

ควรทำมั้ยคะ แนะนำมาแต่ละอย่าง .. เถียงแกไม่ได้เลยค่ะ -ให้เอาปัสสาวะเช็ดปากลูก -ป้อนข้าวต้ม ป้อนกล้วยลูกตอน3เดือน (คุณหมอบอกให้นมแม่อย่างเดียวจนถึง6เดือน) บอกไปแล้วแกมาทุกอาทิตย์ พูดแต่เรื่องนี้ -ตอนลูกอายุได้ไม่ถึง10 วัน จับป้อนน้ำ บอกลูกสะอึก !! (ไม่เป็นอันตรายหรอคะ วันนั้นวันเดียวลูกงอแง ตลอดทั้งคืนไม่ได้พักผ่อนเลยจ้า) ****สามีบอกว่า สมัยก่อนเค้าเลี้ยงมาแบบนี้ก็โตมาได้ **** .. คือรู้สึกผิดเลยค่ะ เพราะเถียงแม่สามีไปว่า "หนูจะเลี้ยงด้วยนมแม่อย่างเดียวถึง6เดือน ไม่ให้กินน้ำ หรือข้าวต้มอะไรทั้งนั้น (เผลอขึ้นเสียงเล็กน้อย เพราะแกมาทุกครั้ง พูดทุกครั้ง!! ) #ระบายหน่อยนะคะ เครียดค่ะ เลี้ยงลูกอยู่บ้านคนเดียว สามีทำงาน เบื่อแม่สามีมาก บงการทุกอย่างเลย ?

303 ตอบกลับ

ลูกเราก็ทานน้ำตั้งแต่2เดือน ทานข้าวซีรีแลคตั้งแต่3เดือนคะ เพราะน้องกินนมไม่อิ่ม เขากินนมเยอะมากจนเราเจ็บนม ส่วนนมผงก็ให้กินสลับกันแต่เขาก็อิ่มได้แปบๆเดียว เราเลยจับน้องป้อนซีแลค ให้กินแค่ช่วงสายคะ คาบเดียว แต่เขาก็ไม่งอแงนะคะ นอนหลับสบายสงสัยจะอยุ่ท้อง ไม่มีใครแนะนำมาคะ และก็ไม่ได้ปรึกษาหมอ คือเราเลี้ยงกับสามี2คนเช่าห้องอยุ่ มันมีความรุ้สึกว่า เขากินแต่นมเขาคงอิ่มไม่พอ นมแม่ก็ไม่ค่อยมี เลยป้อนซีรีแลคแต่3เดือนคะ ทุกวันนี้น้องแข็งแรงดี ไม่ค่อยได้ป่วยเลย ฉลาดด้วยคะ ช่างพูดช่างจา

เจอแม่สามี มาอยู่ด้วย 1 เดือน ทำอาหารให้ทาน ให้อยู่เดือน ไม่สระผม 1 เดือน เพราะน้ำเย็นอาจจะทำให้ร่างกายหนาวได้ และบอกให้ลูกเรากินน้ำสิ เดี๋ยวต่อไปกินน้ำไม่เป็นนะ ทำไมไม่ให้กินน้ำล่ะ เราก็บอกไปว่า น้ำนมมีน้ำอยู่แล้วค่ะ พูดกับแกดีๆ ทุกครั้ง พูดแบบเดิม เหมือนที่เค้าพูดกับเราค่ะ พอลูกครบ4เดือน แม่เราบอกว่า ให้ลองกินข้าวสิ เราก็บอกว่า เลี้ยงกันคนละแบบนะ ให้กินนมถึง 6 เดือนก่อนค่อยป้อนข้าว พูดกับแกดีๆค่ะ สมัยยุคเรา เค้าเลี้ยงอีกแบบ สมัยเราก็เลี้ยงอีกแบบ ต่างกัน แม่คนละคนนะคะ

เห็นด้วยค่ะคุณแม่ บ้านนี้ก็เป็นทั้งแม่ตัวเอง แม่สามี เขามีประสบการณ์สมัยก่อนเลี้ยงเรามาแบบนี้ เราก็ต้องใจเย็นๆ อดทน เพราะยังไงเขาก็หวังดี แต่ถ้าเราไม่เห็นด้วย ก็อ้างหมอเอาค่ะ ว่าหมอบอกแบบนั้นแบบนี้ ฮ่าๆ ซึ่งหมอก็บอกจริงๆ

ของเราเหมือนกันค่ะแม่สามีให้ลูกเรากินน้ำตั้งแต่ 2 เดือนแรกแต่เราปฏิเสธตลอดเขาก็ยังจะให้กินน้ำเวลาน้องสะอึกพ่อสามีกับแม่สามีจะเอาน้ำให้ลูกหนูกินตลอดพอถึงเดือนที่ 3 แฟนเราพูดช่วยว่าไม่ให้กินอะไรจนกว่าเด็กครบ 6 เดือนเขาก็เลยไม่ให้กินแต่พูดกะแนะกะแหนตลอดว่าต้องกินน้ำกินข้าวว่าลูกหิวต้องให้กินเขาบอกแกเลี้ยงลูกแกให้กินข้าวตั้งแต่3 วันแรกที่คลอดพูดแต่แบบเดิมๆเกือบทุกวัน ขนาดให้กินน้ำแค่ 2 เดือนแรกเรายังเสียใจอยู่ทุกวันนี้ตอนนี้น้องได้ 4 เดือนกับ 24 วันแล้วค่ะ

กินน้ำกินได้ค่ะ แต่นิดเดียว ส่วนข้าวไม่แนะนำค่ะส่วนเรื่องปากให้ใช้ผ้าอ้อมหรือผ้าก๊อซชุปน้ำอุ่นๆเช็ดค่ะ ถ้าลิ้นลูกไม่มีคราบขาวแม่เขาก็จะว่าอะไรไม่ได้บ้านนี้เช็ดให้วันละ2ครั้งค่ะปากสะอาดแม่ผัวเลยไม่บ่นให้ ลูกเราเราเลี้ยงเองทำตามที่หมอบอกดีกว่าค่ะ เพราะทารกสมัยก่อนกับเดียวนี้ต่างกันสมัยนี้โรคเยอะเป็นนั่นนี้มา ลำบากคนเป็นแม่ค่ะต้องดูแลลูกเวลาลูกป่วยไม่สบายคนเป็นแม่ใจจะขาดสงสารลูก..อดหลับอดนอนอีก บ้านนี้ถ้าเถียงไม่ได้บอกสามีให้พูดให้ค่ะจบเลย

น้ำพอไหวคะ เพราะตอนนี้ร้อนหมอบอกป้อนน้ำได้บางไม่ควรเกิน 2 oz ต่อวัน แต่อย่างอื่นไม่ไหวคะ โบราณก็ไม่เคยได้ยิน อย่าสนใจคะ อย่าเครียดเดี๋ยวน้ำนมหดหมด ทะเลาะกันเปล่าๆ สามีเป็นคนกลางจะเครียดไปด้วย สู้ๆนะคะ ที่บ้านพ่อสามีก็เป็น ลูกอึเสร็จบอกหิวแล้ว บังคับให้กินนม ร้องทีก็หิวแล้ว บังคับให้กินนม ไปซื้อนมผสมมาให้เลยคะ บอกให้กินมันดีกว่านมแม่ ใสๆ จะมีประโยชน์อะไร ทะเลาะจนแฟนต้องเข้าไปคุยกับพ่อ ถ้าเข้ามายุงจะย้ายออกไปอยู่ต่างหาก พ่อกลัวไม่ได้เจอหลาน เลยงีบคะ

เป็นค่ะ ยิ่งอยู่บ้านแฟน ยิ่งเจอเยอะคะ ไหนจะญาติๆ ที่แบบมีลูกมาเลี้ยงลูกมาเจออะไรทักหมด ทักจนแอบมาร้องไห้คะ แต่ทุกวันนี้ไม่แคร์แล้วคะ ได้แต่พยักหน้ารับไป ทำไม่ทำอยู่ที่เราคะ เพราะว่าลูกแต่ละบ้านก็เลี้ยงไม่เหมือนกัน ลูกเราเลี้ยงแบบที่สบายใจเราคะ ไม่มีแม่คนไหน หวังร้ายกับลูกตัวเองอยู่แล้ว สู้ๆนะคะแม่ เข้มแข็งเพื่อตัวน้อยไว้คะ แล้วก็ต้องคุยกับสามีให้เข้าใจหัวอกเราด้วยคะ ว่าเราเลี้ยง เราอยู่กับลูกเราที่เหนื่อยคะ ไม่ใช่คนอื่น ของมันต้องเรียนรู้คะ

ก็ตอบไปค่ะสมัยก่อนก็มีคนตายเพราะความเชื่อแบบนี้แต่คิดว่าเป็นผีห่าซาตาล และไม่มีโซเชี่ยวแพร่หลายแถมความรู้ก็ไม่ได้อยู่ในรูปแบบหาง่ายแบบสมัยนี้ บอกเขาไปว่าลูกของหนู หนูคลอดเองขอเลี้ยงเองแบบวิธีของเราเอง เราเชื่อความรู้ที่วิวัฒนาการมา มากกว่าความเชื่อโบราณ ส่วนสามีถ้ารักจริงควรไปหาหมอคุยกับหมอกับเรา ไม่ใช่มาเข้าข้างแม่แบบไร้เหตุผล ลูกเรา เราต้องปกป้องนะคะ พอลูกเกิดเป็นอะไรถึงชีวิตขึ้นมาเค้าก็จะว่าเราเลี้ยงลูกไม่เป็นทั้งๆที่เป็นฝีมือเค้า

เราไม่ยอมเลยค่ะ อย่าทวดของลูกก็บอกแบบนั้น แม่เราก็เช่นกันชอบพูดให้ทำโน้นนี่ เราเลยบอกไปว่าถ้าหลานเป็นอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ป้องกันไม่ให้หลานเป็นอะไรไม่ดีกว่าหรือ และที่หมอแนะนำเพราะเขารู้ ไม่งั้นเขาไม่มาเป็นหมอหรอก ถ้าไม่เชื่อหมอแล้วทีตอนเราไม่สบายไปหาหมอทำไม ทำไมไม่หายาสมุนไพร​มาต้มกินเอง ที่ไปหาหมอเพราะเชื่อว่าหมอต้องรักษาหายไม่ใช่หรือ ปรากฏว่าโดนผู้ใหญ่งอนเป็นอาทิตย์​จนตอนนี้ไม่มีใครพูดถึงการเลี่ยงแบบโบราณ​ให้ได้ยินแล้วค่ะ

เราควรมีสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกของเราค่ะ คุณแม่ต้องบอกว่าสิ่งที่คุณแม่สามีทำอันตรายกับลูกทั้งนั้น ถ้าอยากให้ลูกแข็งแรงเติบโตตามวัย พัฒนาการดี ลูกฉลาดควรเลี้ยงแบบสมัยใหม่ เด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบสมัยก่อนแล้วรอดมาได้แปลว่าเค้าโชคดีที่รอดมาได้ค่ะ ระบบทางเดินอาหารเด็กทารกจะพร้อมสำหรับการกินและย่อยอย่างอื่นที่ไม่ใช่นมแม่ก็หกเดือนไปแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ควรเอาชีวิตลูกไปเสี่ยงค่ะ สู้เพื่อลูกนะคะคุณแม่ อย่าไปยอมค่ะ✌🏼✌🏼✌🏼

เยี่ยวนี้คือเยี่ยวลูกค่ะ ที่น้องฉี่เปียกผ้าอ้อม แกคงไม่ได้หมายความว่าให้เช็ดปาก แต่ให้กวาดลิ้น ในกรณีที่ลิ้นลูกขึ้นฝ้าขาว หนา มันช่วยได้ค่ะ ไม่ได้เช็ดทั้งวัน นี้เลี้ยงลูกคนแรกมา ทำค่ะ ทำในกรณีนี้ ลูกแข็งแรงดีค่ะ ส่วนป้อนข้าว ป้อนน้ำ อยู่ที่แม่ตัดสินใจเลยค่ะ ทางนี้ ค่อยๆป้อนตั้งแต่เดือนครึ่ง ซึ่งตัวเองน้ำนมไม่มี ต้องช่วยด้วยซีรีแล็ค ตอนนี้น้อง สองขวบแล้ว แข็งแรงดีค่ะ ไม่เคยป่วย นอน รพ ( แค่แฉประสบการณ์ส่วนตัวน่ะค่ะแม่ )

คำถามยอดฮิต

บทความเกี่ยวข้อง