303 ตอบกลับ
ขออนุญาตแนะนำนะคะ คุณแม่ไม่ต้องไปเถียงแกหรอกคะ แม่สามีก็คือแม่ของเราเช่นกัน เพราะเรารักลูกชายเขา เราก็ต้องรักครอบครัวเขาด้วย เรื่องภายในครอบครัว บางทีจับเข่านั่งคุยกันจะดีที่สุดคะ อธิบายให้เขาฟังว่าคุณหมอแนะนำยังไงในการเลี้ยงดูลูก และก็บอกแกไปว่าตอนนี้มันสมัยไหนแล้ว โรคภัยมันเยอะแยะมากมาย จะทำเหมือนสมัยก่อนไม่ได้ สมัยนี้ทางการแพทย์เขาพัฒนาไปไกลแล้ว เขาต้องเดินตามยุคสมัย แล้วที่สำคัญนะคะ สิ่งที่แม่สามีของคุณแม่บอกอันไหนที่เชื่อได้ ทำได้ ถ้าจะทำให้เขาสบายใจก็ยอมๆทำเถอะคะ แต่อันไหนที่ทำไม่ได้ คุณแม่ก็หาเหตุผลมาอธิบายให้แกเข้าใจคะ ที่สำคัญนะคะ เรื่องแบบนี้ไม่ควรจะนำมาโพสต์ระบายอารมณ์เลยนะคะ มันสื่อถึงหลายๆอย่าง คุณแม่ควรจะพูดคุยกับสามีมากกว่าคะ
บ้านนี้มีลูกสองคนแล้วค่ะ คนแรกเลี้ยงตามแม่สามีทุกอย่างค่ะ เอาเยี่ยวเช็ดลิ้น ให้กินน้ำ กินกล้วยบ้าง เคยเถียงนะค่ะ แต่คำตอบที่ได้จากแม่สามีคือ (กูเคยเลี้ยงลูกกูมาแบบนี้😅👍) กังวลมากค่ะเพราะลูกไม่ค่อยดูดนมเพราะอิ่มน้ำ ไปๆมาๆลูกตัวเล็กมากเพราะดูดนมไม่เต็มที่ ข้าวก็ไม่ค่อยกิน กินแต่กล้วย กลุ้มใจ🤦♂️ พอมาคนที่สอง เราเลี้ยงของเราเองเลยค่ะ แม่สามีพูดไรมาเถียงสู้ตายค่ะ แกจะเอาเยียวเช็ดปากลูก เราปัดมืดแกออกเลยค่ะ จะเอาน้ำให้กิน ไม่ยอมค่ะ ให้ดูดนมเราอย่างเดียว ตอนนี้ลูก5เดือนกว่าๆ ก็มีให้น้ำกินบ้างแล้ว น้ำหนักเกือบจะเท่าๆลูกคนแรกแล้ว ลูกคนแรก จะ2ปีแล้ว ตัวเล็กมาก คนที่สอง ปลื้มใจมากที่ได้เลี้ยงเองตัดสินใจเอง
บ้านนี้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่หกเดือนมาสองคนแล้วค่ะ ไม่มีใครกล้ายุ่ง แม่เราเป็นคนหัวสมัยใหม่ค่ะ เป็นครูด้วย เค้าเลยเข้าใจและเชื่อทุกอย่างที่หมอบอกมา เข้าใจว่าคนสมัยก่อนเค้าก็เลี้ยงของเค้ามาได้ แต่สมัยก่อนสมัยนี้ไม่เหมือนกันนะคะ ดูอย่างการตรวจดาวน์ สมัยก่อนไม่มีหรอกค่ะ แต่สมัยนี้มีทุกอย่างเจาะน้ำคร่ำไรงี้ ที่หมอเค้าบอกว่าเด็กควรทานนมแม่อย่างเดียวจนถึงหกเดือนแม้แต่น้ำก็ไม่ให้ทาน เพราะเค้าวิจัยมาแล้วว่านมแม่มีสารอาหารครบถ้วนมีทั้งนมมีทั้งน้ำ เราเลี้ยงแบบนี้มาสองคนตอนนี้กำลังจะคลอดคนที่สามอีกแล้ว ลูกสุขภาพร่างกายแข็งแรง สุขภาพจิตดี ไม่เห็นมีปัญหาเลยค่ะ สู้ๆนะคะแม่
เราไม่เถียงนะคะ ว่าสมัยก่อนเลี้ยงแบบนั้นมาก็ไม่เห็นตาย เพราะเราคนนึงละที่โดนแม่เลี้ยงแบบนั้นมาทุกข้อ แต่ลูกเรา เราไม่ยอมให้โดนแบบเราเด็ดขาด เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ภูมิ เชื้อโรค ฯลฯ มันพัฒนาหมดแล้ว เราไม่เสี่ยงให้มีอะไรเข้าปากลูกก่อน 6เดือนแน่นอน (มากสุดก็แค่ผ้าก๊อชชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดลิ้นลูกเท่านั้น) ล่าสุดเมื่อวานปู่ย่าเด็กมาหา ละลูกสะอึกใส่หน้าเค้าพอดี เค้าก็แย่งจะให้กินน้ำ พอเราห้าม ก็บีบจมูกลูกเพื่อให้เด็กกลั้นหายใจอีก เรามองตาขวางและขอลูกคืนเลย ลูกเพิ่งเดือนครึ่งเองนะ มาบีบจมูกได้ยังไง กระดูกจมูกก็ยังไม่แข็งดี ปอดก็ยังไม่100%แบบผู้ใหญ่ เคืองมากอ่ะเมื่อวาน
ฉี่สกปรกความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าไม่เหมาะสมค่ะบ้านนี้ใช้ผ้าอ้อมสะอาดชุบน้ำอุ่นและเช็ดเบาๆค่ะ ส่วนแรกเกิดถึง6เดือนไม่ให้กินอะไรค่ะ นอกจากนม บ้านนี้ทานนมผสมเน้นไปทางนมผง เลยอาจเอาน้ำประมาณค่อนช้อนชาให้จิบนิดเดียว พอล้างปาก แต่นานๆครั้งค่ะ แต่ถ้านมแม่ล้วนไม่ให้ทานค่ะ ถ้าใครยังมายุ่งกับลูกเราเกินไปทั้งที่เราอธิบายเหตุผลให้ฟังแล้ว เราจะแผลงฤทธิ์ให้โดยไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้นค่ะ อันนี้สามีเราเข้าใจดี ลูกเราเราต้องปกป้องค่ะ ถ้าเป็นไรมาใครก็รับผิดชอบไม่ได้ แม่ทำถูกแล้วค่ะ ที่เลือกปกป้องลูก จุ้นจ้านเกินไปก็จัดไปซะบ้างค่ะมนุษย์แม่ผัว
บ้านนี้เค้าก็บอกให้เอาฉี่เช็ดแต่ไม่ทำค่ะ เอาผ้าก๊อตชุบน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว เช็ดค่ะ ตั้งแต่แรกเกิดจนตอนนี้จะ 6 เดือนแล้วค่ะ ขาไม่ดัดค่ะ อีกอย่างเรื่องเอานมแม่หยอดตา สงสารลูกมากค่ะ หยอดมาเกือบครึ่งเดือนช่วงแรกเกิดที่ออกจากโรงพยาบาลได้ประมานเกือบอาทิตย์ น้องมีการติดเชื้อตาอักเสบ เค้าก็บอกเอานมแม่หยอดตา จนแล้วจนเล่า ไม่หายเราตัดสินใจพาลูกหาหมอตาค่ะ 1 เดือน 3 วัน หมอบอกตาอักเสบติดเชื้อ ให้ยาหยอดตามาค่ะ หยอดได้ 1-2 ดีขึ้น แล้วหยอดถึง 7 วันหมอนัดดูอาการ หายดีเลยค่ะ ทนทรมานลูกอยู่ตั้งนาน 😔😮💨 โบราณนี่โบราณจริงๆนะคะ อย่าฟังมากเลยค่ะ
อย่าทำนะคะ..เลี้ยงโดยใช้เหตุแหละผลดีที่สุดคะ..ปัสวะมันสกปรก..คือเมื่อก่อนไม่มียารักษาก็ทำกันตามมีตามเกิด..แต่นี้ปัจจุบันแล้วนะคะบอกเขาไปว่ามียาต้องเยอะแยะในการใช้รักษา..คุยกับสามีดู..ว่าถ้าทำแล้วลูกเป็นอะไรขึ้นมาจะเสียใจขนาดไหน..เราไม่เคยเชื่อในสิ่งที่ไม่มีเหตุขัดกับความเป็นจริง..ลูกเราไม่เคยกินกล้วยกินน้ำจนถึง6เดือน..ถ้าเป็นเชื่อราในปากเช็ดด้วยน้ำต้มสุก..ไม่ดีก็หาหมอมียาทาให้2วันก็หายขาว..เราไม่เสี่ยงเด็ดขาด..ลูกเรา4.6ละ..ตอนนี้ท้อง2แล้ว..ก็จะไม่เชื่อ..เราเลี้ยงเอง..ลูกเรา..ใครไม่พอใจก็ช่าง..ดูแลน้องดีๆนะคะแม่..เป็นกำลังใจให้คะ
ส่วนของเราเป็นแม่เราเองนี่แหละครั้งแรกบอกให้เราเอาน้ำให้ลูกกิน ตอนแรกทะเลาะกันเลยนะกับแม่ตัวเองนี่แหละ แกหัวโบราณมาก เราอธิบายไปก็ไม่ฟัง เราบอกว่าหมอเขาห้าม แม่เราบอกว่าจะไปเชื่ออะไรหมอหนักหนา😑เพลียกับแม่ตัวเอง ไม่ให้เชื่อหมอจะให้ไปเชื่อใครเขาเรียนมา ทั้งบอกให้เราเอาฉี่กวาดลิ้นลูก ดัดแขนขา รีดหู เอาขมิ้นทาเวลาเป็นตุ่ม แต่อย่างว่าแหละแม่เราเขาเลี้ยงเรามาแบบนี้.อะไรที่เราหยวนๆ คิดว่าทำแล้วไม่อันตรายกับลูกเราก็ทำ แต่อันไหนที่ทำไม่ได้จริงๆ เราก็ไม่ทำ จนตอนนี้แกขี้เกียจบอกไปล่ะ ตอนเนียเริ่มมีมาบอกให้ป้อนกล้วยอีกแล้ว😆
ขอแนะนำนะคะ อย่าเอาฉี่ป้ายปากเด็กเลยนะคะเด็กจะติดเชื้อในกระแสเลือดได้ค่ะ อาจเสียชีวิตได้ ห้ามให้น้ำเด็กกินก่อนเด็ก6เดือนเพราะเด็กจะได้รับสารอาหารน้อยลงหมอเราห้ามเลนค่ะ ส่วนเรื่องดัดขาหมอเราห้ามค่ะคนแก่ชอบให้ดัดขา แต่ร่างกายเด็กจะขางอตอนแรกเกิดจนถึง3ขวบอยู่แล้วพอนานไปขาเด็กก็จะกลับมาตรงเหมือนเดิมค่ะไม่ต้องดัดมันคือธรรมชาติ ส่วนกล้วยบ้านเราก็จะให้กินกล้วยค่ะแต่เราเชื่อหมอเพราะหมอบอกว่าเด็กตอนนี้ลำไส้เน่าเยอะมากเพราะว่าให้เด็กกินกล้วยก่อน 6 เดือนลำไส้ยังทำงานไม่เต็มที่ค่ะ ที่บ้านก็เหมือนจะไม่ยอมค่ะส่วนเราไม่สนใจค่ะเอากล้วยไปทิ้งเลยค่ะตัดปัญหา 😂
เอาน้ำต้มสุกเช็ดปากลูกดีกว่าค่ะปัสสาวะมีแต่เชื้อโรค ส่วนน้ำรออีกหน่อยค่อยกิน ดีกว่าค่ะ ข้าวต้มหรือกล้วยรออีกหน่อยนะค่อยป้อน ถ้าแม่สามีหรือสามีบอกไห้ทำหรืออะไรก็เสียงแข็งใส่เลย แม่ก็แม่ผัวเถอะ ผ่านประสบการณ์มาก่อนแล้วยังงัย สมัยนู้นกับสมัยนี้มันต่างกันแล้ว โลกเขาไปไหนถึงไหนกันแล้ว เดี๋ยวนี้มีเชื้อโรคพันไหม่มาไม่รุ้ตั่งเท้าไร่ บอกเขาไปเลยว่าเราจะเลี้ยงลูกเราในฉบับของเรา คุณหมอแนะยังงัย บอกท่านไป ทำท่าทางชีเรียส+กับเสียงจริงๆจัง บอกเหตุผลไห้ท่านฟัง อยู่ด้วยกันแล้วต้อง พูดไห้เข้าใจ ไม่ต้องกลัวหรืออะไรทั้งนั้น
เป็นเหมือนกันค่ะเเต่ไม่มากอย่ากินทุเรียนเพราะลูกออกมาไขจะเยอะ ห้ามกินทุเรียนบ้างเเต่เป็นของที่อิเเม่ชอบมากอดใจไม่ไหว บางทีเเม่เเฟนกับมาทำกับข้าวหมูก็เน่าค่ะไก่เน่าบ้างสีเขียวบ้างรู้ค่ะว่าประหยัดพอเราไม่กินน้อยใจเราหาว่าทำกับข้าวให้ทำไมไม่กินออกไปซื้อของกินข้างนออกเค้าใจนะค่ะ เเต่ถ้าเราไม่ท้องเราก็กินพอได้ค่ะ เเต่ถถ้ารู้ว่ามันเสียมันมีกลิ่นก็ไม่มีใครกิน เราอยากให้ลูกได้กินอะไรดีดีค่ะ บ้านเเฟนเป็นคนอีสานส่วนตัวเราเชื้อจีนค่ะเเต่ไม่จีนเเท้ขนาดนั้นนะค่ะเเค่มีเชื่อจากปู่ค่ะ
ชนม์นิภา