ก่อนหน้านี้ที่คบกันมาไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เลยค่ะ ซื่อสัตย์ต่อกันตลอดตั้งแต่ที่ยังไม่แต่งงานกัน ตอนนั้นเราตั้งท้องได้ประมาณ6เดือนค่ะ เรามาอยู่บ้านเขาแล้วเขาก็ไปทำงาน เขาเริ่มสนใจน้อยลงค่ะ อยากกินอะไรก็ไม่ค่อยได้กิน ได้กินนมบำรุงวันละแค่1กระป๋อง เพราะเก็บไว้คลอดลูกค่ะ วันนั้นจำได้ว่าเขาเข้ากะดึก (6โมงเย็นออก6โมงเช้ารวมOT) แต่เขาออกไปตั้งแต่4โมงเย็นค่ะ ปกติทักหาโทรหาจะตอบตลอดแต่นี่เงียบค่ะจำได้ว่าเขาตอบมาไม่ถึง3ครั้ง เราก็รอเขาทั้งคืนเพราะเป็นห่วงกลัวเขาเกิดอุบัติเหตุเพราะเขาต้องขับรถไปทำอีกที่นึงโดยบริษัทเขาส่งไปค่ะ สรุปคือวันนั้นเขากลับถึงบ้านบ่าย2เกือบบ่าย3ค่ะ กลับมาก็นอนเลย ไม่พูดไม่จาข้าวไม่กิน เราก็ทั้งโกรธทั้งห่วงค่ะ เลยถอดเสื้อเช็ดตัวให้ เลยไปเห็นรอยแดงคล้ายรอยดูดที่อกซ้ายของเขา เรามั่นใจว่าไม่ใช่ของเราแน่ๆค่ะ พอถามเขาเขาก็บอกว่าคันเลยเกาจนห้อเลือด ส่วนเรื่องที่กลับช้าเขาบอกเราว่าเจอตำรวจตั้งด่านในรถมีแรงงานต่างด้าวกลัวโดนจับ เลยทำให้ช้าค่ะ เราเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งค่ะ คิดมากต่างๆนาๆ ระแวงทุกอย่างโทรศัพท์มือถือเขาไม่ให้เราจับเลยค่ะ คุยอะไรกับใครลบแชทตลอด เข้าห้องน้ำก็เอาไปด้วยเข้าไปทีนึงก็เป็นชั่วโมงเลยค่ะ เราอยู่คนเดียวไม่ได้เลยต้องนั่งรถไปหาพี่สาวเล่าทุกอย่างให้ฟังพี่ก็ให้กำลังใจค่ะ พอดีขึ้นพี่สาวก็มาส่ง เลยกลับมาคุยมาเคลียร์ทำข้อตกลงกันค่ะว่าห้ามดื่มเหล้า และห้ามกลับช้าแบบนี้อีก เพราะเราอยู่คนเดียวเจ็บท้องเป็นนู่นนี่บ่อยกลัวไม่มีใครพาไปหาหมอ ตกลงกันได้เขาบอกว่าจะไม่ทำอีกค่ะ จนมาถึงวันที่จับได้คือเขาเข้ากะบ่าย3-เที่ยงคืน ประมาณ2ทุ่มคุยกันว่าเหลือเก็บงานนิดหน่อย ถ้าเสร็จเร็วก็ได้กลับเร็ว พอ5ทุ่มเขาทักมาอีกทีค่ะ เรานึกว่าเขาจะทักมาบอกว่ากำลังจะกลับ แต่ไม่ใช่ค่ะเขาขอเราไปดื่มกับเพื่อนที่ปั๊มแห่งหนึ่งที่เราก็รู้จักทั้งๆที่พึ่งจะตกลงกันว่าไม่ให้ไป จากนั้นก็ทะเลาะกันค่ะเรายืนยันชัดเจนว่าให้กลับ เราเห็นเขาเงียบไปในใจนึกว่าคงกำลังขับรถกลับเรารอจนมาถึงตี2ค่ะ เปิดแชทดูเห็นคำขอในแชทส่งมาถามว่าเราใช่แฟนของสามีเราไหม(ไม่งงเนาะ) เราตอบว่าใช่ค่ะ สรุปคนที่ทักมาเป็นแฟนของเพื่อนที่ทำงานของแฟนเราค่ะ เค้าเล่าให้เราฟังว่า เธอรู้ไหมแฟนเธอไปกินเหล้ากับผู้หญิงนะ แฟนเราก็อยู่ที่นั่นด้วย แล้วก็ส่งหลักฐานที่แฟนเราคุยกับแฟนเค้าให้ดู แชทที่1 แฟนเราส่งไปว่า " บอกเมียพี่ด้วยนะว่าพี่กลับแล้ว " แชทที่2คือ เพื่อนเค้าส่งมาว่า "พี่ไม่มาทำงานน้อง...ถามหาพี่ด้วยนะ" เราจุกมากค่ะตอนนั้น ฝันร้ายที่เราไม่อยากให้เกิดมันเป็นจริงทุกอย่าง เราโทรไปหาเขาค่ะ สายแรกไม่รับ สายที่2ถึงรับ เราทั้งร้องทั้งพูดค่ะว่าให้กลับบ้านกลับมาเคลียร์กัน มีเสียงผู้หญิงแทรกว่า เอามานี่เดี๋ยวคุยเอง พอเราถามเขาบอกอยู่กับเพื่อน2คนค่ะ เราเลยบอกเขาว่าให้รออยู่ที่ปั๊ม เดี๋ยวเราขับรถไปดูเอง เขาเลยรับสารภาพว่ายังไม่กลับจากที่ทำงานที่บริษัทส่งไปเลย แต่ไม่ทันค่ะ เราขับมอไซค์ออกมาแล้วในช่วงประมาณตี2-3 ขับไปร้องไปค่ะ ไม่รู้จะทำอย่างไร มือนึงบิดรถ มือนึงลูบท้อง น้ำตาไม่แห้งเลยค่ะ เราเลยตัดสินใจขับรถไปหาพี่เรา ซึ่งแฟนเราไม่รู้ที่อยู่ของพี่เราเขาเลยตามไปไม่ถูก อีกวันต่อมาเราโทรคุยกับแม่ปรึกษาคนในครอบครัวว่าจะเลิก ในใจก็ยังอยากรู้คำตอบว่าจริงไหมอยากฟังคำอธิบายจากเขาอยากรู้ความจริงไม่อยากค้างคาเลยกลับไปเอาเอกสารตัวเองกับสมุดสีชมพูลูกก่อนจะแอบเข้าไปเอาแล้วนั่งวินออกมา แต่ไปเจอเขาก่อน เขาก็กอดขาเราร้องไห้ขอไม่ให้เราไปค่ะ เราก็ไม่ใจอ่อนเพราะเจ็บมากจริงๆ เขารั้งเราไว้จนมืดค่ะ จนไม่มีรถออกไปไหนแล้ว วันนั้นเป็นวันหยุดยาวเขาค่ะ เลยไม่ได้ไปทำงาน เราตั้งใจไว้ว่าอยู่คืนนี้คืนสุดท้ายพรุ่งนี้เช้าจะรีบเก็บของแล้วออกไปเลย เขาเข้ามากอดเราจากข้างหลังแล้วโกหกเราต่อค่ะ เราถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเขาก็จะบอกว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ รวมถึงผู้หญิงคนนั้น แค่เเซวเล่นๆมากสุดแค่จับมือเขา เราไม่ได้เชื่อ100%แต่เราก็อ่อนลงมาก พอมาอีกวันใจเรายังคิดอยากจะไปอยู่ค่ะ เลยพูดดีๆกับเขาทำทุกอย่างเหมือนปกติ แล้วขอให้เขาพูดความจริงอีกที ขอให้เป็นเรื่องจริงขออย่าโกหกกันอีก เขาเลยจำใจเล่าว่า
เขา : พี่มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น (เราสั่นไปทั้งตัวน้ำตาไหลเองอัตโนมัติ)
เรา : เมื่อไหร่
เขา : ก็วันที่พี่กลับบ่าย2
เรา : ที่ไหน ห้องเขาหรอ
เขา : ห้องเช่า
เรา : เธอเป็นคนเปิดห้องหรอ ราคาเท่าไหร่
เขา : พี่เปิดเอง 300
เรา : ป้องกันไหม
เขา : (เงียบ) ส่ายหัว
จากนั้นเราปล่อยโฮออกมาเหมือนคนบ้าเลยค่ะ เขาก็ยืนยันว่ามีแค่ครั้งเดียว โดยผู้หญิงก็มีลูก2คนมีสามีแล้วซึ่งเขาก็ยังอยู่ด้วยกัน โดยเจอผู้หญิงอยู่ที่ทำงาน (พิมพ์ไปยังเจ็บน้ำตาคลออยู่เลยค่ะ) เรารอเขากลับบ้าน ทำทุกอย่างไว้รอ ซักผ้า ทำกับข้าว สารพัดแต่เขากลับเอาเวลาที่มีไปให้คนอื่น เราไม่ไหวจริงๆค่ะนาทีนั้น เลยเข้าไปคุยกับทางผู้ใหญ่ฝั่งเขาค่ะว่าเราจะกลับบ้านเราที่ตจว.จะตัดขาดทุกอย่างกับเขาแล้ว เรารับไม่ได้จริงๆ แต่โดนคัดค้านค่ะ เขาขอให้เราอภัย ขอให้เขาได้เห็นหน้าหลาน ให้ลูกได้มีพ่อ ถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก เขารับปากเลยว่าจะเป็นคนไปส่งเองถึงที่ แล้วจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีก จะส่งเสียแค่ค่าเลี้ยงดู เราสับสนมากค่ะ ทำใจไม่ได้ แต่เพื่อลูกเลยยอมอีกครั้ง เราคิดไว้ว่าถ้ามีอีกจะไม่มานั่งพูดแล้ว จะเก็บของแล้วออกไปเลย หลังจากตอนนั้นเราก็ยังอยู่ที่นี่ค่ะ เพียงแค่มีเครียดเพิ่มเติมขึ้นมา บางเวลาอยากฆ่าตัวตาย เห็นภาพหลอนมีคนมาชวนลงน้ำ(ที่บ้านมีท่าน้ำ) ก็จะเดินลงไปดื้อๆ เห็นมีดก็อยากจับมากรีดตัวเองเล่นๆ เคยกรีดแล้วแต่แฟนมาเห็นก่อน บางเวลาก็ร้องไห้หนักเหมือนคนบ้า เรารู้ตัวว่ากำลังจะทำอะไร แต่หยุดไม่ได้ มันเหนื่อยไปหมด อยู่คนเดียวก็เหมือนคนเป็นบ้า ข้าวกินไปเท่าไหร่ก็อาเจียนออกหมด เราทั้งกราบทั้งขอร้องว่าขอให้เรากลับบ้านเถอะ เราอยู่ไม่ได้จริงๆ แต่เขาไม่ยอมค่ะ เลยให้คนที่บ้านมาเฝ้าเราไว้ห่างๆ สิ่งที่ฉุดเราขึ้นมาได้ระดับนึงคือลูกค่ะ เรากินอะไรเขาจะดิ้น เราพูด-ลูบท้อง เขาก็จะโต้ตอบเราค่ะ เราเลยไม่พูดกับใครเลย แต่ก็ไม่ทำร้ายตัวเอง จะมีนานๆครั้งถ้าร้องไห้หนักมากๆ และได้กำลังใจจากแม่ค่ะ คำที่เราใช้คอยเตือนสติตัวเองทุกวันนี้คือ "ชีวิตนี้แม่กลัวมากๆ กลัววันที่ไม่มียาย แม่คิดไว้ว่าถ้ายายไม่อยู่แม่ก็จะไม่อยู่ แต่พอมีหนูความคิดแม่ก็คิดกลับไปว่า ขนาดเรายังกลัวที่จะไม่มีแม่ แล้วลูกเราล่ะ ถ้าไม่มีเราเขาจะอยู่ยังไง" จากนั้นอาการเราเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ แต่ยังมีร้องไห้บ้างเมื่อความรู้สึกวันนั้นผ่านเข้ามา โดยรวมถือว่าดีขึ้นค่ะ ใช้ชีวิตให้เหมือนกับว่าเรื่องร้ายๆมันไม่เคยเกิดขึ้นนับวันรอที่จะได้เห็นหน้าลูก กอดบอดี้สูทตัวเล็กๆซ้อมรอที่จะได้กอดตัวจริงๆ สร้างพลังบวกให้มากมายเลยค่ะ เอาใจช่วยหากใครกำลังเจอปัญหาแบบเดียวกับเรานะคะ มันจะผ่านไปแม้จะทรมานมากๆก็ตาม เพื่อสิ่งที่บริสุทธิ์มันมีคุณค่าแก่การรักษามากกว่าเก็บเรื่องราวเหล่านั้นไว้ ลูกคือสิ่งที่วิเศษที่สุด เรารู้สึกคุ้มค่าที่สุดที่ได้เกิดมามีชีวิตค่ะ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ยาวหน่อยแต่มันมาจากเรื่องจริงของแม่คนนี้ค่ะ ?
Amy pakamart