62 ตอบกลับ

โมเม้นของการได้เป็นพ่อเป็นแม่ ได้รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ ได้มีสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่งอยู่ในท้องของเรา ได้รับรู้ความรู้สึกถึงความรักที่ไม่มีตัวตนเพราะเรารักเขาตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าเขา อาจจะดูไม่ตื่นเต้นเพราะแม่ได้เตรียมตัวสำหรับการตั้งครรภ์แล้วหลังจากที่แม่แฟนบอกว่าอยากมีหลาน ทุกๆวันจะค้นหาข้อมูลเพื่อนำมาดูแลเด็กน้อยในครรภ์ แต่แล้วการตั้งครรภ์ครั้งนี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่การงานของแม่เพราะแม่ได้แจ้งทางบริษัทฯว่าตั้งครรภ์เพื่อให้ทางบริษัทฯได้เตรียมคนมาทำงานแทนกลับกลายเป็นโดนให้ออกจากงานด้วยเหตุผลว่าหมดสัญญาจ้างซึ่งแท้ที่จริงสัญญามันหมดไปตั้งแต่กุมภาพันธที่ผ่านมาแล้วตอนบอกคือเดือนเมษายนซึ่งในตอนนั้นสถานะจริงคือพนักงานประจำแล้วเพราะไม่มีการเรียกไปต่อสัญญา โดยไม่มีการจ่ายชดเชยอะไรทั้งสิ้น ทางคุณแม่เลยชวนคุณพ่อไปฟ้องกับกรมแรงงานว่าให้ออกโดยไม่เป็นธรรม กว่าจะจบเรื่องก็เกือบถึงวันที่คลอดทำให้มีเงินก้อนที่ได้จากทางบริษัทเป็นค่าชดเชยเก็บส่วนนึงไว้คลอดลูก ไปคุณหมอบอกว่าเป็นลูกชายที่มีสุขภาพแข็งแรงแถมดูดื้อเพราะตอนอัลตร้าซาวด์เด็กน้อยเอามือปิดหูไม่ต้องการฟังที่พ่อแม่และคุณหมอพูดเพราะทุกคนอยากให้เด็กน้อยกลับหัวเพื่อให้คุณแม่คลอดง่ายๆแต่สุดท้ายเด็กน้อยก็กลับหัวให้ในนาทีใกล้จะถึงวันคลอดขอบคุณนะลูกที่ยอมกลับหัวให้แม่ และในที่สุดก็ไม่สามารถคลอดเองได้เนื่องจากปากมดลูกไม่เปิดต้องผ่าคลอดวันที่ตรวจเลยเนื่องจากถึงกำหนดคลอดแล้ว เป็นการผ่าที่รู้สึกเจ็บตั้งแต่หมอลงมีดกรีดตลอดเวลาจนหมอต้องวางยานอนหลับเสียใจที่ไม่ได้เห็นหน้าลูกตอนผ่าคลอดออกมาเนื่องจากฤทธิ์ยานอนหลับแต่คุณพ่อได้ถ่ายรูปไว้ให้ซึ่งคุณพ่อไม่รู้เลยว่าแม่โดนยานอนหลับตอนผ่าจนเข้ามาเจอกันในห้อง ได้รับรู้การให้นมลูกได้ฟังเสียงร้องและเห็นรอยยิ้มที่แม่ได้อุ้มท้องมา9เดือนที่คุณลูกให้ความร่วมมือคุณแม่ไม่แพ้ ไม่มีอาการอะไรจนคลอดแต่การคลอดครั้งนี้ ทำให้กว่าคนที่ทำงานจะรู้ก็คือจากที่แม่ไปบอกเขา หลังจากแม่ได้พาเด็กน้อยกลับมาบ้านเป็นคืนแรกที่เด็กน้อยร้องไห้ทั้งคืนจนพ่อกับแม่ไม่ได้นอน ยอมรับว่าเหนื่อยและอดนอนร่างกาบไม่พร้อมแต่ด้วยความเป็นแม่และพ่อทำให้เราผ่านไปได้จนครบ1เดือนที่คุณหมอนัดตรวจตัวเหลือง สรุปเด็กน้อยตัวเหลืองอันตรายต้องเข้าห้องฉายแสงเพื่อให้ค่าตัวเหลืองลดลงนั้นแหล่ะเป็นจุดเปลี่ยนอีกจุดคือเป็นห่วงกังวลจนน้ำนมหดไม่มีเลย ทำให้เด็กน้อยไม่ได้นมแม่เลย สงสารลูกจับใจที่ไม่มีนมให้ลูกดูดดื่ม หลังจากอยู่โรงพยาบาลฉายแสง 1 คืนก็กลับมาปกติ ขอบคุณคุณหมอที่ดูแลอย่างดี ขอบคุณเด็กน้อยที่เลี้ยงง่ายไม่ งอแง ไม่ดื้อเลย เลี้ยงง่ายมากๆ แม่กับพ่อสัญญาจะเลี้ยงให้ดีที่สุดเราจะมีความสุขไปด้วยกันด้วยความรักที่เรามีต่อกันในครอบครัวเล็กๆของเรา

โมเม้นที่ไม่เคยลืมคือช่วงวันที่6สิงหาเวลาตี2-3เราตื่นมาเพราะปวดฉี่ แต่รู้สึกว่ามีเหมือนประจำเดือนไหนตกใจมากเลยรีบเอามือจับดูสรุปว่ามันคือมูกเลือดเยอะมากๆ ด้วยความที่ท้องแรกเลยให้แฟนไปถามแม่เขาว่าจะเป็นอะไรมั้ยแต่เราไม่ปวดท้องใดๆ เขาบอกคงไม่เป็นไรเพราะเขาไม่เคยเป็นแบบเรา ตอนนั้น39วิคกว่าๆกำหนดคลอดวันที่16 แต่วันนั้นเพิ่งวันที่6เลยคิดว่าปกติของคนใกล้ถึงวันคลอด พอช่วงเช้าประมาน8-9โมงเราปวดฉี่อีกรอบเลยลุกขึ้นไปจะไปเข้าห้องน้ำ เดินลงมาจากบ้านเท่านั้นแหละ น้ำคล่ำแตก แต่ไม่ปวดท้อง ตอนนั้นคือตกใจมาก รีบบอกแม่แฟน บอกแฟน เพราะไม่ได้ตั้งตัวเลย แฟนเลยไปส่งเรานั่งแทคซี่ไปรพ.เพราะไม่อยากให้ซ้อนมอไซร์มันไกลและไม่สะดวก พอไปถึงรพ. น้ำคล่ำไหลเยอะมากๆ แต่เราต้องไปนั่งรอคิวตรวจปากมดลูก นานมาก จนน้ำคล่ำไหลนองมาอีกครั้ง เลยบอกหมอ หมอเลยรีบตรวจปากมดลูกแต่เปิดแค่2เซ็น แต่น้ำคล่ำออกมาเยอะมากแล้ว เลยส่งตัวไปห้องรอคลอด เราเตรียมตัวทุกอย่างนอนรอคลอดแต่มดลูกไม่เปิดเพิ่มไม่มีอาการปวดท้อง เลยโดนเร่งคลอดผ่านสายน้ำเกลือ นอนไปซัก2-3ชม.คือเริ่มปวดท้อง ปวดมากไป ปวดเป็นระยะๆจนหมอมาตรงจอีกทีเปิด5เซ็นแล้วเลยเข้าไปห้องคลอด นอนรออีกเกือบๆชม. วินาทีนั้นคือทรมานสุด ปวดแบบจะตายจิกเตียงจิกแขนตัวเองคือจิกทุกอย่างแบบไม่ไหวจริงๆ ซักพักเราเบ่งเองเลยเพราะไม่ไหวจริงๆ เบ่งไปซักพักใหญ่ๆหัวเด็กเริ่มโผล่พยาบาลเลยเรียกหมอมาช่วย คือเราเบ่งจนคิดว่าคงไม่รอดแล้ว จะขาดใจแล้ว ในที่สุดเจ้าตัวเล็กก็ยอมออกมาในเวลา13:06น. คือกีใจและโล่งมากๆ หมอให้เราดูลูกแล้วบอกน้องเป็นผญ.นะคะ น้ำตาของคนเป็นแม่ไหลอาบแก้มเลยทีเดียว ยังไม่จบแค่นั้น พอย้ายเข้าห้องพิเศษเราต้องนอนคนเดียว1คืนเพราะต้องแยกลูกเราไปตรวจหลายอย่างเพราะออกมาน้ำหนักตัวแค่2400 นอนคิดถึงลูกข้ามคืนไปเลยจ้าร้องไห้นอนไม่หลับ วันถัดมาตอนบ่ายหมอบอกจะเอาลูกมาให้ดีใจน้ำตาแตกไปเลยสิคะ พอได้เจอลูกเท่านั้นแหละหายเจ็บแผลเลยทันทีจากที่นั่งพับเพียบม่ได้คือนั่งได้ทันทีเพื่อลูก555 แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น อีแม่ไม่มีน้ำนมจ้า น้ำนมไม่ออกเลยทั้งให้ลูกเข้าเต้าทั้งปั้ม คือไม่มีแม่แต่นิดเดียว เสียใจมากๆลูกร้องหิวไม่หยุดสงสารสุดใจ ได้แต่ไปขอนมพยาบาลตลอดจนพยาบาลเริ่มบ่น แต่เราอดสงสารลูกไม่ได้จริงยอมโดนบ่น จนผ่านไป2คืนน้องแข็งแรงดีได้กลับบ้านเลยให้น้องกินนมผงตลอดจนกระทั้งตอนนี้น้อง2เดือน28วันแม่ก็ไม่มีน้ำนม จะมีก็แค่ซึมๆนิดเดียว แอบอิจฉาแม่ๆคนอื่นที่มีน้ำนมให้ลูกกิน อีแม่นี่บำรุงทุกอย่างยาตัวไหนที่ทำให้มีน้ำนมอีแม่หามากินหมดแต่ก็ไม่มีออกมาเลย เลยตัดใจให้ลูกกินนมผงต่อไป😪💓

เรื่องตอนคลอดค่ะ คือ ส่วนตัวลูกคนแรกตั้งใจจะคลอดเอง และ วันที่จะคลอดก็มาถึง … น้ำเดินตั้งแต่ 7 โมงเช้า อาบน้ำเตรียมตัวไปรพ. ถึงได้กรอกข้อมูลนอนรอ วัดปากมดลูกได้ 5 เซ็นติเมตร ก็นอนรอข้างในห้องรอคลอดเลยค่ะ ตั้งแต่ 11:00 จนไปตอน 6 โมงกว่าเริ่มมีอาการปวดถี่ รอจน 20:00 น. จะปวดถี่และมากขึ้น ก็รอนะคะ นอนหลับไปบ้างข่มหลับ เพราะเพลียกินข้าวแค่มื้อเช้าแต่ให้น้ำเกลือยาวเลย ไม่ได้ออกไปบอกใครเลย นานมากกก จน 21:00 น. ได้บอกนศ.พยาบาลว่ารู้สึกเหมือนน้องจะดันหัวออกมา แล้วน้องให้อาจารย์มาวัดปากมดลูกตอนนั้น 8 เซ็นติเมตรจะ 9 แล้วสามารถคลอดได้ เค้าก็รีบย้ายขึ้นเตียงเข็น ไปห้องคลอด วินาทีนั้น เรากลัวและเจ็บมาก แต่ตอนนั้นอดทนคิดแค่ว่าลูกจะเกิดแล้ว ขอให้คลอดง่ายๆ แล้วอยู่ๆ นศ.แพทย์ 2-3 คน นศ.พยาบาล 4-5 คน และพยาบาล 3-5 คนเข้ามา คือ เยอะมากกกกกกก ใจหล่นไปละ แต่คิดว่าคงรีบทำคลอด แต่ความจริงคือ เรียนค่ะ เรียนรู้ตอนเราคลอด แต่คือ “ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าอะไรเลย” จนแบบเราก็พูดอะไรเยอะไม่ได้ ไม่กล้าถาม จนให้แบ่งลูก หัวออกมาแล้ว พยาบาลก็ถามนศ.พยาบาลคนนึงว่าขั้นตอนนี้เรียกว่า … น้องเค้าอึกอัก จนเพื่อนต้องใบ้ ระยะเวลาไม่นานค่ะ แต่สำหรับเราคือ ไม่ใช่ที่ต้องมารอการตอบคำถามนี้ เพราะเราเจ็บและอยากให้ลูกคลอดเร็วๆ ถามไปตอบไป ทำคลอดไป คือนานกว่า แต่โชคดีน้องไม่สำลักหรือ ไม่มีอาการใดๆ มีแต่อาการตัวเย็น เนื่องจาก น้องมีการทำความสะอาดช้า แต่เราไม่รู้ว่า ถ้านานกว่านี้หรือยังไง จะเกิดอะไรขึ้น แต่ที่เกิดขึ้นคือเรา มีความดันสูง สูงมาก 190+ คือ ขึ้นลง แต่ขึ้นสูงมาก เพราะอะไรหรอ มีการมาบอกว่าอย่ากลัวอย่าตกใจ แต่คือ มีพยาบาลพูดมาว่า “อย่าแย่งรก ถ้าแบ่งแล้วรกตีกลับขึ้นอก จะทำให้ช็อคได้ จะไม่รับผิดชอบอะไรได้นะ” แต่คือ คำถามก็มาว่า ทำไมไม่รีบทำคลอด ไม่รีบกดรกให้ออก ต้องนอนอดทน เหมือนเค้าคิดว่าเราสมบูรณ์เราทนได้ แต่คือ มันไม่ใช่ นี่คือ เหตุผลที่ท้องสองทำให้เราเลือกฝากพิเศษ มันฝังใจ สุดท้ายลูกต้องเข้าเครื่องให้ความอบอุ่นโดยห่อผ้าแล้วใส่ถุงพลาสติกคลุมให้อุ่น โดยที่ลูกเกิดมาไม่ได้มานอนซบบน “บนอกแม่” เหมือนคนอื่นๆ แล้วเขาก็เข็นขึ้นไปบนห้องรวม เวลาเกิดของน้อง 21:07 น. เวลาคลอดรก 21:30 หรือ 21:47 น. ไม่แน่ใจ แต่ประมาณนี้ เป็นเหตุการณ์ที่จดจำฝังใจ กับลูกคนแรกมากค่ะ แต่ดีนะคะ เราทำบุญ กินเจไหว้พระบ่อยมากกกก น้องเลยเกิดมาสมบูรณ์ แข็งแรงไม่มีโรคอะไรเลยค่ะ

1โมเมนต์ที่ไม่เคยลืมของแม่นั่นก็คือ การได้เป็นแม่ เคยตั้งใจไว้ว่าจะไม่มีลูก เพราะกลัวการปวดท้องคลอดมากๆ😆 กลัวการโดนคุณหมอกรีดจิมิ😆 กลัวเลี้ยงไม่เป็น 😆 กลัวสอนลูกไม่เป็น 😆 ตอนแรกที่รู้ว่าตั้งท้อง คือ กลัว กังวลทุกๆอย่าง เพราะเลิกกับพ่อของน้องด้วย แต่แม่ก็ไม่เคยคิดเอาน้องออกนะคะ เมื่อตรวจจนแน่ใจว่ามีน้องแล้วก็บอกพ่อของน้อง (แม่เลิกกับพ่อได้2เดือน ท้อง3เดือนครึ่ง) พ่อน้องก็บอกให้กลับมาอยู่ด้วยกัน แม่ลืมความโกรธหมดสิ้น เพราะคิดว่าอนาคต ลูกคงต้องการความรักจากพ่อ กลัวลูกมีปมด้อย ในใจคิดถึงแต่น้อง แม่เป็นคนกินยายากมากๆ แต่ก็พยายามกินทุกมื้อตามคุณหมอสั่ง อยากให้น้องแข็งแรง สมบูรณ์ ในความเห่อ คอยเปิดเพลงให้น้องในท้องฟัง นิทานบ้าง เพลงกล่อมบ้าง พูดคุยกับน้องลูบท้อง ‘น้องอย่าให้แม่ปวดท้องนานนะคับ ไม่ให้แม่ปวดข้ามวันข้ามคืนนะคับ เวลาน้องออกมาเอาน้ำนมแม่ออกมาด้วยนะคับ’ ในทุกๆวัน ทยอยซื้อของใช้ตั้งแต่6เดือน เลือกออแกนิคทุกอย่างกลัวลูกจะแพ้ ถึงแม้ว่าแม่จะกลัวการปวดท้องคลอด แต่ทำใจแข็งนะ ไม่ฝากผ่า พออายุครรภ์ได้39+1 ตอน08.00น. มีน้ำใสๆไหลลงมาแล้วหยุดและไม่ไหลต่อ แต่แม่ไม่ปวดท้อง ตัดสินใจไป รพ. คุณหมอตรวจ ไม่ใช่น้ำคร่ำและปากมดลูกไม่เปิด นอนรอ1คืนก็ไม่มีอาการใด รุ่งเช้ามีนัดกับคุณหมอใหญ่ คุณหมอให้แอดมิท และทำการเหน็บยา ในใจแม่กลัวมาก กลัวจนร้องไห้ออกมา กลัวการปวดท้อง เหมือนเดิมค่ะ แม่ลูบท้องและพูดกับน้องน้องอย่าให้แม่ปวดท้องนานนะคับ ไม่ให้แม่ปวดข้ามวันข้ามคืนนะคับ เหน็บ2รอบ แม่ไม่ปวดไม่มีอาการใดๆและปากมดลูกก็ไม่เปิด สรุป แม่ได้ดมยาผ่าคลอดค่ะ 39+3 เหมือนน้องรับรู้ได้กับทุกสิ่งที่แม่พูด แม่ไม่ปวดใดๆ น้องออกมา 19.30 น. แม่ฟื้น 22.00 น. น้ำนมแม่ไหลทันทีเลย เห็นน้องครั้งแรกแม่น้ำตาไหล ลืมความกลัวตอนแรกทุกอย่าง ในใจคิดอย่างเดียว คือ จะเลี้ยงน้องให้ดีที่สุด น้องเลี้ยงง่ายมาก เป็นเด็กอารมณ์ดี คุยเก่ง และกินจุมากๆ ไม่ร้องไม่งอแงใดๆ ยิ่งรักมากขึ้นทุกวัน ห่างกับน้องแค่ตอนเข้าห้องน้ำเท่านั้น ตอนนี้น้อง5เดือนแล้วค่ะ เท่าลูกหมูแล้ว #ทุกครั้งที่น้องหลับ แม่จะหอมแก้มน้อง แล้วบอกน้องว่า ‘แม่รักน้องนะคับ หลับฝันดีนะคับลูกแม่’ #ท้องแรกแม่หาอ่านทุกสิ่งอย่าง ช่วยได้เยอะมากๆ

เล่าประสบการณ์ความเป็นแม่ ฉันไม่เคยเข้าใจความเป็นแม่หรอกค่ะ เพราะไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อน และไม่เคยคลอดลูก แต่จนกระทั่งได้เริ่มคบหากับคนๆนึง เขามีลูกติดค่ะ วัยเพียง4-5เดือน พอเราเริ่มคุยกัน ก็เริ่มอาศัยอยู่ด้วยกันเลยค่ะ เรา2คนดูแลเด็กน้อยกันไม่เป็นเลยค่ะ ตอนน้องร้องตอนกลางคืน คุณพ่อก็จะอุ้มเด็กน้อยเดินรอบห้อง โอ๋ๆทั้งคืน จนเริ่มเงียบ แต่จะวางไม่ได้เลย น้องจะตื่น แต่คุณพ่ออุ่มนานๆก็เมื่อย เลยส่งน้องให้ฉัน ฉันก็ไม่เคยดูแลเด็ก ก็ค่อยๆอุ่มพาดไหล่ ค่อยๆตบตูดเบาๆสลับกับลูบหลังเบาๆพร้อมกับร้องเพลงหนอนในยูทูป พอเริ่มเมื้อยก็ค่อยๆเอนตัวนั่งพิงหมอน แล้วก็ไม่กล้าหลับเลยค่ะ พอ8-9โมง ฉันก็ต้องไปทำงานนอกบ้าน ส่วนคุณพ่อก็อยู่บ้านกับตัวเล็ก กับยาย ช่วงว่างฉันก็หาข้อมูลในGoogle อ่านวิธีดูแลเด็กหลายอย่าง จนครั้งนึง พาตัวเล็กไปฉีดวัคซีน เขาให้ตัวเล็กทำแบบทดสอบพัฒนาการเด็ก แล้วก็ให้สมุดทำแบบทดสอบมาด้วย ฉันไม่ค่อยสะดวกนั่งอ่านรายละเอียดเพราะต้องทำงาน เลยหาแอพตัวช่วย จนมาเจอแอพนี้ จะบอกว่ามีประโยชน์มากเลยค่ะ น้องโตมากับแอพนี้เลย #theAsianparent ทุกๆเช้าจะเข้าแอพดูว่าวันนี้น้องต้องทำพัฒนาการอะไรบ้าง แล้วก็จะสั่งให้คุณพ่อหรือคนที่อยู่บ้านช่วยทำ ช่วยสอนน้อง พอน้องทำได้ก็ลิสไปทีละข้อๆ พอเลิกงานฉันก็จะมาพาน้องเล่น พร้อมกับสอนน้องไปอีกทีนึง บางข้อน้องก็ทำได้เลย บางข้อก็ต้องใช้เวลา และประทับใจมากๆ ก็ตอนน้องไม่สบาย ฉันก็อัพเดทอาการน่ากังวลลงในแอพ ก็มีเพื่อนๆมาช่วยกันตอบ ถึงจะตอบช้าไปหน่อย แต่เหมือนมันเป็นที่พึ่งช่วยให้ฉันคลายกังวลลง ต้องขอบคุณแอพนี้มากๆเลยค่ะ และตอนนี้น้องก็กำลังจะ2ขวบในอีกไม่กี่วันแล้ว ฉันดูแลน้องมาปีครึ่งแล้ว นี่มั้งคะ ประสบการณ์ความเป็นแม่ของฉัน ฉันรักเด็กน้อยคนนึงโดยไม่มีเงื่อไข ไม่สำคัญเลยว่าใช่ก่อนเลือดของฉันหรือป่าว แต่เขาคือความสุขของฉัน

TapFluencer

เอาเริ่มต้นเลยนะคะตั้งแต่รู้ว่าตัวเองจะเป็นแม่คนทุกครั้งคือดีใจมากกกกครั้งแรกกับสามีคนแรกดูแลอย่างดีบำรุงอย่างดีคือลูกคนแรกอ่ะนะคะพอใกล้กำหนดคลอดเกิดถุงน้ำคล่ำรั่วก้อรีบไปเเต่หาหมอคุนหมอบอกปากมดลูกไม่เปิดเเต่จึงผ่าให้เราไปหาหมอตอนบ่ายๆได้ผ่าอีกทีตอน1ทุ่มพอผ่าเสร็จก้อปกตินะคะน้องออกมา นน.3,360กรัม เเข็งเเรงดีพอกลับมาบ้านได้2คืนน้องร้องไห้หนักมากตัวร้อนมากเลยรีบพาไปหมออีกทีคุณหมอบอกว่าทำไมพาน้องมาช้าจังได้ยินคำนี้เรารุ้เลยว่าลูกต้องแย่แน่ๆ จากที่คนไข้คนอื่นรักษาอยู่คือหยุดหมดหมอต้องช่วยกันมาดูลูกเราก่อนเลยค่ะสุดท้ายน้องก้อไม่รอด..สาเหตุคือติด้ขื้อในกระเเสเลือดค่ะน้องลืมตาดูโลกได้เเค่อาทิตย์เดียวตอนนั้นคือทุกอย่างที่วางแผนไว้คือพังทะลายหมดเลยค่ะเหมือนจะบ้าร้องไห้อย่างคลั่งไเคยได้ยินแต่ในข่าวไม่คิดว่าตะเจอกับตัวเองทำใจยุนานเลยค่ะกับสามี พออีก3ปีต่อมาเลยเลิกกับสามีคนแรกมาทำงานที่ภาคใต้ก้อมีเเฟนใหม่เลยตั้งท้องคนที่สองนี่ก้อเหมือนเดิมค่ะดีใจมากเเต่!!ก้อต้องสลายอีกครั้งเพราะเเท้งค่ะตอน3เดือนคิดในใจคงจะไม่มีลูกกับเขาแล้วล่ะค่ะ พออีกปีต่อมาน้องมาอีกล่ะคะ คนนี้ก้อบำรุงอย่างดีเหมือนกันค่ะเเละเเล้วก็ได้เป็นเเม่คนกับสักที ได้ดูแลได้กอดได้หอมได้รุ้จักคำว่าความสุขเปนเเบบไหนถึงจะเหนื่อยบ้างแต่มันเทียบไม่ได้เลยค่ะกับที่เราเห็นหน้าลูกค่ะ อ่อลืมบอกไปน้องที่เสียไปเปน ผู้ชายทั้งสองค่ะ แต่คนนี้เปนผู้หญิงค่ะ

โมเม้นท์ที่แม่ไม่เคยลืม คือโมเม้นท์ที่ตัวเองท้องลูกคนแรก แต่แม่เป็นเบาหวานก่อนท้องอยู่แล้ว แม่ต้องฉีดยาทุกวันที่บริเวณหน้าท้อง จาก1ครั้งต่อวัน ขยับเป็น2ครั้งต่อวัน พร้อมเจาะเลือดปลายนิ้วก่อนและหลังทานอาหาร จดบันทึกส่งหมอเบาหวานทุกเดือน น้ำตาลก็ไม่ดีขึ้นเลย ทั้งๆที่กินแบบระวังสุดๆ เจอหมอ หมอดุทุกครั้ง พูดถึงลูกว่ามีความเสี่ยงต่อการพิการ หัวใจหยุดเต้นได้ตลอด คนเป็นแม่ก็ได้ฟังก็เครียดทุกครั้ง คำพูดหมอคือไม่รักลูกตนเองหรอแม่ เขาอยู่ในท้องเราแค่9 เดือน ถ้าเป็นไรขึ้นมามันย้อนกลับไปทำไรไม่ได้ ทรมานปรับยาก็แล้วเบาหวานก็ไม่ลง ดีบ้าง สูงบ้าง น้ำตาลไม่ดีตลอด หมอขู่จะให้นอนโรงพยาบาลตลอดถ้าน้ำตาลไม่ดี จนใกล้คลอดสัปดาห์ที่ใกล้คลอด หาหมอครั้งสุดท้ายบอกน้ำตาลไม่ดี จับเราแอดมิท 3วัน แถมช่วงโควิด ไม่ให้ใครเฝ้า ทรมานใจแม่อีกครั้ง นอนโรงพยาบาลร้องไห้ทั้งคืน อยากกลับบ้าน ร้องจนปวดหัว นอนไม่ได้ พยาบาลต้องเอายาแก้ปวดให้กิน ทั้งๆที่ตลอดเวลาท้องเราไม่เคยกินยาใดเลย อยู่โรงพยาบาล 3 วันกินๆ นอนๆ เจาะเลือด ฉีดยา ในโรงพยาบาลก็ผ่านไป หมอปรับยาให้ใหม่ตามนั้น ฉีดยาเบาหวานจนวินาทีสุดท้าย ลูกก็ไม่ยอมออก จนหมอให้ผ่า เพราะความดันเริ่มสูง นัดผ่ากลัวทุกตรง ผ่าเสร็จ ฟื้นมาลูกก็อยู่ห้อง NICU เพราะลูกน้ำตาลตก ต้องให้น้ำเกลืออยุ่กับพยาบาลถึง2วัน แต่ลูกก็สมบูรณ์ดี ครบ32ทุกประการ ขอบคุณพระเจ้า

1โมเมนต์ของการเป็นคุณพ่อคุณแม่ครั้งแรกในชีวิตที่ไม่มีวันเคยลืม เป็นการรอคอยที่นานมากผิดหวังมาทุกเดือน จนท้อซื้อที่ตรวจไข่ตกมาก็ไม่ได้ผล หมดความหวัง เลยไปปรึกษาหมอเอายามาทาน ได้3เดือน ประจะเดือนขาดไป4วัน คุณพ่อไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาเองเลยตรวจขึ้น2ขีดดีใจมากๆ ไปตรวจให้แน่ใจที่รพ.ใกล้บ้านสรุปท้อง หลังจากนี้คุณพ่อก็พาไปฝากครรภ์ที่คลินิก แต่คุณแม่มีโรคประจำตัวไทรอยด์ คุณหมอบอกที่คลินิกไม่สามารถปรับยาไทรอยด์ไห้คุณแม่เวลาท้องได้ ต้องไปรพ.ตรวจเลือดทุกเดือนปรับยาตลอดเพื่อลูกน้อยในครรภ์ คุณพ่อคุณแม่ท้อไปอีกแต้ก็ไม่หมดกำลังใจสู้ต่อเพื่อลูก หาหมอเดือนละ3ครั้งทุกเดือน หมอต่อมไร้ท่อ หมอความครรภ์ความเสี่ยงสูง หมอคลินิก เพื่อลูกเกิดมาที่สมบูรณ์แข็งแรงคุณพ่อคุณแม่จะสู้ต่อไปเพื่อได้เจอหน้าคนที่ไม่เคยเจอมากก่อน ตื่นเต้นทุกครั้งที่หาหมอได้เจอลูกน้อยดิ้นดุกดิ๊ก คุณพ่อคุณแม่มีทั้งสุขทั้งทุกข์ แต่ก็ไม่เคยลืมความทรงจำดีๆครั้งนี้👨‍👩‍👧เพื่อครอบครัวที่สมบูรณ์แบบค่ะ

Super Mum

โมเมนต์ของการเป็นคุณแม่ที่ไม่เคยลืมของเราก็คือ พอรู้ว่าได้ตั้งครรภ์ลูกคนแรกจากที่รอคอยมา 3 เดือน ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้น และดีใจมากๆ ค่ะ ที่มีอีกหนึ่งชีวิตในท้องของเรา ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างมากที่ผู้หญิงไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้สัมผัสกับเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ หลังจากที่เรารู้ว่าตั้งครรภ์แล้ว เราก็ดูแลตัวเองอย่างดีทั้งเรื่องอาหารการกิน และเรื่องการดูแลสุขภาพค่ะ โดยมีแม่ พี่สาว และน้องสาวเป็นที่ปรึกษาค่ะ เพราะทั้งสามคนนี้เคยมีประสบการณ์การตั้งครรภ์มาแล้ว ส่วนสามีเราก็คอยดูแลเราตลอดค่ะ ถึงแม้ว่าจะเจอกันสัปดาห์ละ 2 วันก็ตามค่ะ เวลาหมอนัดตรวจครรภ์เค้าก็จะไปด้วยกันทุกครั้งจนถึงวันคลอดค่ะ สามีต้องลางานไปเฝ้าเราที่ร.พ.คอยไปเยี่ยมตัวน้อยที่ห้อง เนอสเซอรี่ทุกเช้ากลางวันเย็นค่ะ (ไปเก็บภาพน่ารักๆ ของตัวน้อยค่ะ) เพราะร.พ.ที่เราไปคลอด เค้าไม่ให้พาเด็กออกจากห้องเนอสเซอรี่จนกว่าจะกลับบ้านค่ะ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่เคยลืมเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ "คุณแม่ทุกท่าน" ประสบการณ์ ตั้งแต่รู้ว่าท้อง แอบไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่า ท้องจริงรึป่าว (แอบยิ้ม)อีกวันนึงจึงได้ไปหาคุณหมอเพื่อความชัดเจน ..เราเป็นคนที่คิดว่าตัวเองแข็งแรงพอควร แต่พอเริ่มตั้งครรภ์ได้ ช่วงสัปดาห์ที่ 12 ก็เริ่มมีเลือดออก ได้ฉีดยากันแท้ง รวมๆแล้วฉีดไป 4เข็ม(ทุกอาทิตย์) จนเลือดหยุด พอเข้าสัปดาห์ 18 ก็มีเลือดออกอีกได้กลับไปฉีดยาอีก 2เข็ม+ทานยาเพิ่ม กังวลมากกลัวลูกจะเป็นอะไรไป(แทบอยากลาออกจากงานเลยค่ะ)แอบมีภาระเยอะ... หลังจากนั้นจนถึงวันนี้สัปดาห์ที่ 22 ไปหาหมอตามนเลือดหยุดไหลลูกน้อยปกติตามเกณฑ์ ปจบ.นี้24สัปดาห์ ต้องสู้ร่วมกับลูกต่อไปจนครบเทอม ช่วงนั้นเริ่มภาวนาสวดมนตฺ์บ่อยขึ้น อย่างน้อยก็คิดว่าน่าจะช่วยได้บ้าง ทุกวันนี้ก็สวดมนต์บ่อยขึ้นค่ะ (เพื่อลูกแล้วแม่จะหาทางทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกน้อยปลอดภัย)รักของแม่

คำถามยอดฮิต

บทความเกี่ยวข้อง