#ขาดกรดโฟลิค ฝากเเชร์ต่อด้วยนะค่ะ ได้ขออนุญาติเจ้าของเพจมาเเล้วค่ะ

#วันนี้ขออนุญาติเล่าเรื่องของตัวเองเป็นอุทาหรณ์​ให้แม่ๆได้รู้จักป้องกันและเห็นความสำคัญของการกินกรดโฟลิคนะคะ? #น้องภีม​ ปัจจุบันอายุ5เดือนกว่าค่ะ น้องป่วยเป็นโรคความบกพร่องของกระดูกสันหลังตั้งแต่กำเนิด #เพราะขาดโฟลิก​ อาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรมาก​ แต่อยากให้รู้ถึงผลกระทบทั้งหมด #ภายใต้รอยยิ้มของเด็กคนนี้แบกรับอะไรไว้มากมาย? "เล่าย้อนไปตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าท้องเขาครั้งแรก ก็ตอนอายุครรภ์ได้12สัปดาห์แล้วค่ะ พอรู้ก็รีบไปฝากท้องเลย(คือดีใจมากเพราะว่าอยากมีลูก)​ บำรุงและดูแลตัวเองทุกอย่าง​ ไปพบหมอตรวจตามนัดปรกติ​ แม่ฝากท้องกับ​ รพ.รัฐฯ​ แม้ใช้สิทธิประกันสังคม​ แต่ได้ซาวด์ดูเขาแค่ครั้งเดียว คืิิอตอน18สัปดาห์ ซาวด์เพื่อดูในเรื่องของขนาดตัวเด็กและกำหนดคลอด​ ผลวันนั้นคือน้องปรกติดีทุกอย่าง แต่ไม่เห็นเพศ เสร็จแล้วหมอก็แจ้งกำหนดเดือนที่จะคลอดน้องให้เรารู้​ได้ฟังก็ยิ้มปลื้มปริ่มเลยค่ะ ..ช่วงท้องแม่พยายามนับลูกดิ้นตลอดตามที่หมอบอกเพื่อจะบันทึกลงในสมุดสีชมพู​ แต่เชื่อไหมคะว่า​ #ในสมุดน้องภีมไม่เคยมีบันทึกจำนวนการดิ้นไว้สักครั้งเลย​จนวันคลอดก็ไม่เคยค่ะ เวลาไปตรวจแม่ก็จะแจ้งให้พยาบาลทราบว่าไม่เคยรู้สึกว่าลูกดิ้นเลย​ นอกจากแค่ตอดตึบๆนานๆครั้งแค่นั้น​ คำตอบที่ได้ก็ยังช่วยให้แม่สบายใจมาตลอด​ คือ..คงเป็นเพราะท้องแม่หนามาก​ ตอนไม่ท้องก็เหมือนคนท้องอยู่แล้ว​ เลยทำให้ไม่รู้สึกถึงการดิ้นของลูก​ เพราะฟังเสียงหัวใจของน้องก็เต้นปรกติตามเกณฑ์ดีทุกครั้ง​ ?10​ มิถุนายน​ 2562 วันที่คลอดน้อง​ แม่ตรวจวัดความดันพบว่่าสูงมากถึง200กว่า​ นั่งพักและตรวจใหม่ยังไงก็ไม่ลดลง​ (นน.​แม่หนักเกิน110kg.ด้วย)​ เวลาประมาณ9โมงเช้า​​ แม่ถูกส่งไปห้องรอคลอด ปากมดลูกแม่เปิด​ 6-7ซม.แต่ไม่มีลมเบ่งมาสักที​ ถูกฉีดทั้งยาเร่งคลอด​ และยากันชักหลายเข็มมาก​ จำไม่ได้ว่าเท่าไร​ รอดูอาการและรอลมเบ่งมา..จนประมาณบ่ายโมงตรง​ คุณหมอมาตรวจ​และสรุปว่า​ #แม่ครรภ์เป็นพิษ​แน่ๆ ต้องส่งผ่าตัดด่วน​ ก่อนเข้่าห้องผ่าตัด​ หมอพูดกับแม่ประโยคหนึ่งว่า.. #ไม่ต้องกลัวนะหมอจะพยายามช่วยรักษาชีวิตไว้ให้ได้ทั้งแม่และลูก​ ได้ยินแค่นั้นน้ำตามันไหล​ ความกลัว​ ความกังวลทุกอย่างมันจุกแน่นไปหมด​ ร้องไห้จนหลับไปตอนไหนไม่รู้ #ผ่าแบบดมยา ในที่สุดน้องก็ผ่าคลอดออกมาสำเร็จ เวลา 13.59 น.​ น้ำหนักแรกคลอดคือ 2,922 กรัม ?หลังจากที่น้องคลอดเรา2แม่ลูกก็ถูกแยกกันไปคนละตึกเลย​ แม่ถูกส่งไปห้องICU ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ​ ส่วนน้องก็ไปอยู่​ ICU เด็กค่ะ​ ไม่ได้เจอหน้ากันเลยสักนิด แม่ก็ไม่รู้ข่าวลูกด้วยว่าเป็นอะไร และเป็นยังไงบ้าง? และเช้าวันที่​ 11​ มิถุนายน​ 2562 น้องถูกส่งตัวไปผ่าตัดด่วนที่​ รพ.เด็กฯ ตอนนั้นแม่ก็ยังไม่รู้ว่าลูกเป็นอะไร ถามใครก็ไม่ได้เพราะท่อออกซิเจนช่วยหายใจมันยัดเต็มปากจนพูดไม่ได้ ได้ยินแต่พยาบาลในห้องICU ประมาณ3-4คนเขาคุยกัน ตอนที่มารุมเจาะเลือดทั้งขาแขน​(ใช้เลือดเยอะมาก)​ เขาพูดกันว่า​ เด็กต้องส่งไปผ่าตัดปิดกระดูกสันหลัง​ที่กรุงเทพฯ​ ตึกนู้นเขาเลยโทรมาบอกให้เจาะเลือดแม่ส่งไปแมทกับลูก​ด้วย​❓❓ ..ทรมานใจสุดๆ อดทนเป็นอาทิตย์กว่าจะได้เจอหน้าลูกตัวเองครั้งแรก โดยที่ไม่เคยได้รู้ข่าวอาการของลูกเลย รู้แค่คร่าวๆก็วันที่ 13​ มิถุนายน ทาง อ.หมอ รพ.เด็กฯ​ โทรมาแจ้งว่าผ่าตัดปิดกระดูกสันหลังเรียบร้อยแล้ว น้องอยู่ NICU อาการน่าห่วงมาก​ ออกซิเจนในเลือดต่ำ​ ต้องใส่ออกซิเจนช่วยหายใจตลอด​ และพบว่าน้องมีน้ำคั่งในสมอง​ด้วย​ หมอจึงรีบโทรมาขออนุญาติแม่ให้ยินยอมผ่าตัดทางโทรศัพท์ เพื่อใส่สายช่วยระบายน้ำในสมองของน้อง เพราะพ่อแม่ไม่สามารถไปเซ็นเอกสารได้ในวันนั้น​ ?17​ มิถุนายน​ 2562​ วันที่รอคอย..วันที่ได้ออกจากโรงบาล แล้วรีบไปหาลูกครั้งแรก.. ^ภาพแรกที่เห็น..แม่แทบทรุด ลูกนอนในตู้อบ ในห้องเด็กที่แยกเฉพาะเด็กที่ความเสี่ยงสูง มีสายระโย้ระย้า​เต็มตัว ผ้าปิดแผลขาวเกลื่อน น้ำตามันไหล​ออกมาเองเลย รู้สึกสงสารลูกจับใจ​? พยาบาลบอกให้แม่เปิดตู้เอามือเข้าไปจับลูกได้​ แม่ค่อยๆจับเขาเบาๆ​ ด้วยอาการเกร็งนิดนึง​ เพราะไม่เคยมีลูกกับเขา​ น้องภีมเป็นลูกคนแรก​ ปากพูดบอกลูกว่าหนูต้องสู้นะลูก​ หนูเกิดมาเป็นลูกแม่แล้ว​ ไม่ว่าจะเป็นยังไงแม่จะดูแลหนูเอง​ ขอแค่หนูอยู่กับแม่​ ​เหมือนลูกจะรับรู้ได้ เขาเอามือจับนิ้วโป้ของเราไว้แน่น ▪️คุณหมอถามว่า รู้มาก่อนไหมว่าลูกมีความผิดปรกติแบบนี้มาตั้งแต่ในท้อง​ แม่ตอบความจริงว่าไม่รู้เลยค่ะ​ หมอย้อนถามอีกว่าไม่ได้ซาวด์หรอถึงไม่เห็น? ซาวด์ครั้งเดียวค่ะหมอที่ซาวด์เขาแจ้งว่าปรกติดี​ ไปตรวจตามนัดเสียงหัวใจเขาก็เต้นปรกติ​ทุกครั้ง ก็เลยไม่ต้องซาวด์ครั้งที่2​ให้ค่ะ ..^อาจารย์หมอได้ฟังแม่ตอบก็ส่ายหน้า​ คำพูดเขายังจำได้ไม่เคยลืม #กรรมของเด็กจริงๆถ้าหมอคนนั้นใส่ใจและเห็นตั้งแต่ในท้องว่าเป็นหนักขนาดนี้คือไม่ควรปล่อยให้เกิดมาทรมาน​เลย ? ? สรุปโรคที่น้องภีมเป็น คือ..โรคความบกพร่องของกระดูกสันหลัง​ตั้งแต่กำเนิด โครงสร้างภายในมันพังไปหมด​ มีถุงน้ำโผล่กลางหลังทำให้ไขสันหลังไม่ปิด ​ถึงต้องรีบผ่าตัดด่วน ไม่อย่างนั้นเด็กอาจเสียชีวิตได้ภายใน3วัน เคทแบบนี้เคยมีมาหลายคน #แต่หมอขอใช้คำว่าเคทนี้เป็นสูงมากกว่าเด็กคนอื่นหลายเท่า เพราะได้รับผลกระทบค่อนข้างจะหนัก ซึ่งไม่มีโอกาสที่จะรักษาให้หายได้เลย #นอกจากพิการไปตลอดชีวิต? ➡️ ขาผิดรูป ทั้ง2ข้าง ไม่มีเส้นเอ็น​ จึงไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้​ อ.หมอบอกว่าเพราะแบบนี้เขาถึงไม่ถีบตอนอยู่ในท้อง #เพราะเขาไม่มีขา ? ➡️ เนื้อสมองของน้องผิดรูป​ อยู่ระดับต่ำกว่าของคนปรกติ​ และมีบางส่วนย้อยลงถึงต้นคอ อุดตันขวางทางระบายน้ำ​ จึงทำให้เกิดน้ำคั่งในสมอง​ ถ้าไม่ใส่สายระบายน้ำช่วย เขาก็จะหัวโต​เป็นหัวบาตร [ #ปัจจุบันถือว่าโตอยู่ค่ะ จะ6เดือนแล้วแต่คอยังไม่แข็งเลยเพราะหัวเขาขนาดโตกว่าตัว เพิ่งถูกผ่าตัดเปลี่ยนสายระบายใหม่เมื่อต้นเดือนจ้า]​ ➡️ ไตผิดรูป​ และมีไตแค่ข้างเดียว​..คนปรกติจะมีไต2ข้าง​ และมีลักษณะคล้ายเม็ดถั่ว​ แต่ของน้องมีข้างเดียวและลักษณะโค้งเหมือนเกือกม้า​ น้องไม่สามารถฉี่เองได้หมด​ มีค้างในไตจนเกิดภาวะไตบวมน้ำ​ ทุกวันนี้แม่ต้องช่วยสวนฉี่ให้เขาทุก6ชม.​ ถ้าไม่สวนให้เขา คือฉี่ที่ค้างจะท้นขึ้นๆ ไตจะบวมมาก และน้องมีโอกาสที่จะไตวายเสียชีวิตได้ตลอดเวลา ➡️ เรื่องระบบขับถ่าย น้องไม่มีเส้นประสาทควบคุม​ คือจะไม่สามารถอั้นอุจจาระ​ และ​ ปัสสาวะได้ เขาจึงจะถ่ายค่อนข้างบ่อยมาก​ ปวดตอนไหนออกตอนนั้น แม่ก็ต้องขยันเช็ค ขยันเปลี่ยนแพมเพิสให้บ่อยหน่อย ต้องใส่ให้เขาตลอด เพราะแม่ต้องชั่ง​ นน.แพมเพิสที่เขาฉี่เองได้​​ รวมทั้งที่สวนได้ทุกครั้ง จดไว้ให้คุณหมอดูค่ะ ➡️ นอกจากนั้นช่วงล่างเขาไม่มีความรู้สึกต่อการสัมผัสใดๆเลย ต้องคอยระวังเรื่องน้ำร้อนน้ำเย็น การเสียดสีทุกอย่าง ▪️กระดูกเปาะหักง่าย​▪️ต้นขาขวาหัก▪️กระบังลมไม่ปรกติ ทำให้ปอดทำงานไม่สมบูรณ์​ เขาจึงจะค่อนข้างหายใจเร็วและเหนื่อยง่ายกว่าปรกติ​▪️และสะโพกหลุดทั้ง2ข้าง​ เหมือนเงือกน้อย​ เวลาพลิกตัวต้องขยับ2ครั้งทั้งช่วงบนและช่วงล่าง​ ถ้าไม่มีเนื้อหุ้มไว้ตัวน้องคงหมุนได้รอบอ่ะ​ เรื่องสะโพกนี้​ คุณหมอมีแผนที่จะผ่าตัดต้นปีหน้าค่ะ ?ส่วนสาเหตุที่เป็น​แบบนี้​ #เพราะว่าร่างกายของแม่ขาดกรดโฟลิก อ.หมอบอกว่าอยากให้แม่แชร์ เพราะเดี๋ยวนี้ทางโรงพยาบาลไม่มีแจกโฟลิคให้ทานแล้ว นอกจากยาบำรุงเลือดที่มีส่วนผสมของโฟลิคให้กินตอนตั้งครรภ์​แค่นั้น เพราะทารกต้องใช้กรดโฟลิกในตัวแม่​ เพื่อสร้างตัวของเขาเองในช่วงเวลา1-2เดือนแรกในครรภ์​ ซึ่งคนเราโดยปรกติทั่วไป​ กว่าจะรู้ตัวว่าท้อง​ ส่วนใหญ่ก็ตอน3เดือนแล้ว​ จะกินกรดโฟลิกตอนนั้นก็คงไม่ทัน​ #อยากฝากถึงแม่ๆทุกคน..เราไม่รู้หรอกค่ะ ว่าร่างกายเรามีความพร้อมแ​ค่ไหน ถ้าเราไม่ได้ปรึกษาหมออยู่แล้วนะ​ เดี๋ยวนี้โรคมีเยอะ เราก็ควรป้องกันไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะไม่อยากเห็นใครโชคร้ายแบบน้องภีมอีก✌️..หมอเคยบอกว่า เคทลูกเราเป็นสูง หมอตอบไม่ได้เลยว่าเขาจะมีชีวิตยืนยาวอยู่กับเราได้นานแ​ค่ไหน​ แต่ถ้าเขาไปเร็วเท่าไร​ นั่นมันก็เป็นเรื่องที่เราควรยินดีกับเขา"​ #หัวอกแม่ได้ยินแบบนั้นใจแทบขาด​? ..ทุกวันนี้เหนื่อย แทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง แต่ไม่ท้อค่ะ พยายามกระตุ้นพัฒนาการลูก ถึงสมองเขาจะผิดรูปจากคนอื่น แต่ก็ไม่ได้มีน้อยกว่าคนอื่น นี่คือสิ่งที่เราคิดเพื่อให้ตัวเองมีกำลังใจ #และแค่ทุกวันนี้ลูกยิ้มเป็นมันก็ล้ำค่าสุดสำหรับเราแล้ว ❤️ ​ #ขอเป็นกำลังใจให้แม่ที่กำลังแบกรับปัญหาหนักๆทุกคนให้สู้นะคะ มองหน้าลูกเยอะๆ กำลังใจมันจะมาเอง ขอแค่ไม่ท้อ..อะไรมันก็ผ่านได้ทั้งนั้น​ ✌️✌️ (ขอบคุณคนที่ทนอ่านเรื่องน้องจนจบค่ะ.. ยาวไปนิดต้องขอโทษด้วยจ้า พยายามเล่ทตั้งแต่เริ่ม เผื่อแม่ท้องจะได้สังเกตตัวเอง ถ้าอาการคล้ายกันคือต้องรีบซาวด์เลยนะคะ?)

1613 ตอบกลับ

ขอเป็นหนึ่งกำลังใจของคุณแม่และน้องภีมสู้ๆนะคะ✌️ เราก็เป็นอีก 1 คนที่เคยผ่านประสบการณ์ที่เรียกว่าโหดร้ายและแย่ที่สุดในชีวิตเหมือนกันค่ะเราเคยท้องค่ะท้องแรกฝากที่คลินิกที่มีคนแนะนำเพราะเห็นมีคนบอกว่าดีเรากับแฟนตัดสินใจไปฝากที่คลินิกไปฝากตอนนั้นหมอบอกว่า 5 วีคค่ะพอผ่านไปได้สักอาทิตย์กว่าๆเรามีอาการตกเลือดไปหาหมอที่คลินิกหมอซาว์ดบอกว่าเจอน้องแล้วอาจมีภาวะแท้งคุกคามให้เรากลับมานอนพักนิ่งๆที่บ้านรู้สึกว่ายิ่งดึกเลือดยิ่งมาเหมือนเป็นประจำเดือนเลยจนกระทั้งตีสามเรารู้สึกว่ามีก้อนเลือดชิ้นใหญ่ๆหลุดออกมาเราร้องไห้พร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำภาวนาตลอดเวลาขอให้ลูกอยู่กับเรานะแต่สิ่งขอร้องไม่เป็นผลค่ะนั่นคือชิ้นตัวอ่อนของน้องเองพร้อมด้วยก้อนเลือดที่ห่อหุ้มน้องเราเก็บชิ้นเนื้อใส่ถุงไว้แล้วกลับมานอนแต่อาการปวดก็ยังไม่เบารู้สึกอีกทีตอนตีสามครึ่งว่ามีก้อนเลือดไหลออกมาอีกครั้งค่ะเราเข้าห้องน้ำด้วยความตกใจพร้อมกับเอามือรองรับก้อนเลือดชิ้นนั้นเราตกใจมากๆเพราะว่าก้อนเนื้อชิ้นแรกและชิ้นสองมันเหมือนกันเราจึงเก็บใส่ถุงไว้จากนั้นอาการปวดท้องก็เริ่มเบาลงเรื่อยๆตื่นมาตอนเช้าเราไปหาหมอที่โรงพยาบาลพร้อมชิ้นเลือดที่หลุดออกมาให้หมอตรวจเช็คร่างกายหมอบอกว่าเราแท้งลูกโดยสมบูรณ์และโชคร้ายมากที่เราแท้งและเสียลูกแฝดค่ะแท้งตอน 7 วีค ท้องสองค่ะท้องไปฝากครรภ์ที่คลินิกเดิมเราบอกหมอว่าครรภ์แรกของเราท้องแฝดนะคะ พูดกับเราแบบแรงอ่ะค่ะว่า “คุณคิดว่าคุณจะท้องแฝดอีกหรอคะ” คือเรากับแฟนอึ้งมากรู้สึกไม่ดีกับหมอละหมอขอเราซาว์ดช่องคลอดสรุปคือเจอถุงตั้งครรภ์2 ถุงหมออึ้งไปเลยค่ะสรุปเราท้องแฝดหลังจากนั้นไม่นานตอน 6 วีครู้สึกเหมือนตกเลือดไปให้หมอตรวจค่ะไม่ให้ยากันแท้งมาทำอะไรให้ทั้งสิ้นกลับมาตกกลางคืนเราตกเลือดค่ะน้องหลุดออกมากลับไปให้หมอตรวจบอกว่าน้องไม่อยู่แล้วแถมบอกเราว่าแท้งโดยสมบูรณ์แต่จุดพีคที่สุดคือแค่ยาบำรุงเลือดสักเม็ดก็ไม่มีให้เรากินเลยจากนั้นตั้งสันนิษฐานอื่นๆต่างๆนาๆว่าเราเป็นเบาหวานบ้างเราเป็นไทรอยด์บ้างให้เราเจาะเลือหาสาเหตุการแท้งที่คลินิกเขาและต้องเสียเงินค่าตรวจที่ประมาณ 4000-5000 บาทประมาณนั้นเราคุยกับแฟนค่ะไม่ขอตรวจ คือไม่เข้าใจหมอค่ะทำไมไม่ทำเรื่องส่งตัวให้เราเข้าตรวจที่โรงพยาบาลเพราะเรามีประกันสังคมซึ่งมันเป็นเรื่องฉุกเฉินไม่เสียค่าใช้จ่าย พอหลังจากแท้งแล้วเราคุยกับแฟนเราพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลใหญ่ประจำจังหวัดแห่งหนึ่งค่ะตรวจเช็คสุขภาพผลเลือดทุกอย่างที่มีผลค้างเคียงการแท้งและการตกเลือดของเราค่ะ ผลคือคุณหมอบอกว่าเราปกติดีทุกอย่างแต่น้องอาจจะไม่สมบูรณ์เองค่ะ เราตัดสินพักมดลูกอยู่ 6 เดือนบำรุงทุกอย่างที่คนแนะนำและคู่มือการมีบุตรต่างๆนาๆ จึงปล่อยให้เรามีน้องท้องที่ 3 เราตัดสินใจไม่ฝากที่คลินิกเดิมเลยค่ะไปหาหมอที่โรงพยาบาลเล่าประวัติการแท้งทั้งสองรอบให้หมอฟังหมอให้เรากินยากันแท้งทันทีตอนนี้ 8 วีค 1 เดย์แล้วปกติดีทุกอย่างค่ะ

ลูกคนแรกเป็นค่ะ เป็นตรงก้นกบ มีรูกว่างประมาณ 2-3 เซนได้ หมอก็บอกเด็กปกติตอนอยู่ในท้อง ตอนซาวน์ดหมอก็ไม่ได้พูดอะไร จนคลอด พยาบาลทำคลอดให้เพราะหมอยังไม่เข้าเวร น้องโดนแยกตัวออกไป เข้าตู้อบ ไม่ให้ทาน นม 1 วันเต็ม ได้แต่มองเขาอยู่ในตู้อบ ทางรพก็ไม่ได้แจ้งไรมาแจ้งอีกทีก็เข้าวันที่3 บอกว่าต้องไปรพใหญ่ น้องต้องผ่าตัดเพราะมีแผลบริเวณก้นกบ แล้วคือเพิ่งมาบอกกกก!!! ก็รีบพาลูกไป หมอที่ตะทำการผ่าบอกทำไมเพิ่งมาวันนี้รู้มั้ยว่ามันอันตรายมาก น้องอาจเสียชีวิตได้หรืออาจพิการไปเลย เราก็ได้แต่ร้องไห้ เพราะสงสารเขา วันรุ่งขึ้นต้องทำการผ่าตัด เด็กอายุแค่4วันต้องผ่าตัด มันทรมานมาก กลัวไปหมด ร้องไห้ตลอด น้องต้องให้อ๊อกซิเจน โดนเจาะเลือด ให้น้ำเกลือ เอาง่ายๆว่า แขนน้องโดนเจาะจนพรุน แทบจะไม่มีให้เจาะแล้ว อยู่รพหลายวันมาก แต่ของเราโชคดีที่สมองไม่โต ทุกอย่างปกติ จนออกจากรพ แต่ก็ยังต้องไปหาหมอ เรื่อยๆเพื่อดูอาการต่างๆของน้อง จนคุณหมอที่ทำการผ่าตัดให้มั่นใจว่าน้องปกติถึงเลิกนัด ทุกวันนี้น้องอายุ10ขวบแล้วค่ะ น้องชอบบ่นปวดขา ปวดหลัง บ่อย ก็คงเป็นอาการข้างเคียง ผ่านมันมาได้รู้สึกโชคดีมาก คุณแม่ก็สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

จะมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองเหมือนกันค่ะ เมื่อเมื่อ 5 ปีก่อนตั้งท้องลูกคนแรก กว่าจะรู้ว่าตัวเองท้องปาเข้าไป12weekแล้ว เพราะไม่มีอาการแพ้อะไรเลย แล้วก็ไม่เคยเช็คประจำเดือนตัวเองซะทีว่ามาหรือไม่มา พอรู้ว่าท้องก็ไปฝากครรภ์ที่คลินิก หมอซาวด์ครั้งแรกก็เริ่มสงสัยว่าเด็กจะผิดปกติหรือป่าว แต่ก็ให้โฟลิคมากิน นัดครั้งต่อมา หมอบอกเลยว่าเด็กสร้างกระโหลกไม่สมบูรณ์ แต่ส่งตัวไปตรวจอีกโรงบาลหนึ่งที่มีเครื่องมือทันสมัยกว่า เพื่อยืนยันผล ปรากฏว่าเด็กไม่มีกระโหลกศรีษะจริง จรึงสั่งยุติการตั้งครรภ์ ตอนจะเข้าเดือนที่ 4 เพราะเกิดมาเขาก็รอดยาก ถ้ารอดก็อายุไม่ยืน ร้องไห้อยู่เป็นปี ยอมรับว่ากลัวไปหมด ไม่กล้ามีลูกอีก ตอนนี้ผ่านมา 5 ปี กินโฟลิคเตรียมพร้อมมาตลอด จนตอนนี้ ท้องได้ 20+6 week แล้ว เด็กปกติ แต่แม่อายุเยอะต้องเจาะน้ำคร่ำ ก็ยังแอบกังวลรอผลเจาะน้ำคร่ำออกแม่ถึงจะสบายใจ อยากฝากบอกแม่ๆทุกคนว่าโฟลิคสำคัญมากช่วง 3 เดือนแรก เป็นช่วงพัฒนาการสร้างตัวส่วนต่างๆของตัวอ่อน ต้องได้รับในปริมาณที่เพียงพอ ถ้าตรวจแล้วเจอว่าตัวเองท้อง รีบไปฝากครรภ์ หรือซื้อมากินเองก็ได้นะคะ

เป็นโพสต์แรกที่อ่านทุกบรรทัดจนจบ รู้สึกโชคดีที่เราไม่เจอเรื่องแบบนี้ เพราะตอนท้องเรากินยาบำรุงเลือดที่หมอให้ไม่ได้เลย กินเเล้วอ้วกหมด ไม่ว่าจะกินตอนไหน เช้าเที่ยงเย็นหรือก่อนนอนก็ยังอ้วกเหมือนเดิม แต่ก็พยายามกินถึงจะอ้วกก็ตาม แต่ยังโชคดีที่น้องคลอดมาไม่มีความผิดปกติอะไร มีแค่หายใจเร็วหลังคลอด ไม่ต้องอบไม่ต้องอยู่ICUเด็ก 3วันได้กลับบ้าน มาเจอแย่ๆตอนน้อง3เดือนกว่า เกือบจะเสียน้องไปเพราะน้องไม่สบายเป็นกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ ปอดติดเชื้อและเม็ดเลือดขาวมากกว่าเม็ดเลือดเเดง พาไปโรงบาล(โรงบาลรัฐ)หมอบอกน้องท้องอืดให้ยากลับมากินที่บ้านผ่านไป1อาทิตย์2อาทิตย์ก็ยังไม่ดีขึ้น ตัดสินใจพาไปอีกโรงบาลเป็นโรงบาลของอีกจังหวัดนึง หมอบอกถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้อีกนิดเดียวอาจจะเสียน้องไปเลยนะแม่ เจ็บใจสุดๆ เสียค่ารักษาไม่ใช่น้อยๆที่บ้านไม่ค่อยมีเงิน ต้องกู้หนี้ยืมสินเขามาจ่ายค่ารักษาลูก เป็นกำลังให้ค่ะ สู้เก่งทั้งแม่และลูกเลย สู้ๆนะคะแม่ สู้ๆนะจ๊ะน้องภีม

สู้ๆนะคะคุณแม่ น้องต้องหายดีปกติจ้าา เราก็ฝาก รพ.รัฐนะ ช่วงไตรมาสแรกเรามีเลือดออก หมอเลยนัดถี่ทุกอาทิตย์ช่วง1-2เดือน(เพราะเคยแท้ง) พอเข้าเดือนที่3จนสู่ไตรมาส2 หมอนัดเดือนเว้นเดือน พอเข้าไตรมาส3หมอนัดทุกเดือน เดือนละครั้ง (ฟังเสียงหัวใจทุกครั้ง ซาวน์ทุกครั้งที่หมอนัด) แค่ฉี่ผิดปกตินิดนึงก็เจาะเลือดตรวจหาสาเหตุทันที แต่เราจะโดนให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียบ่อยเพราะเกิดจากเรากินน้ำน้อยและพักผ่อนน้อย โดนเจาะคาเข็ม เจ็บตัวบ่อย จนปรึกษาหมอ หมอก็แนะนำสารพัด ปริ้นใส่กระดาษออกมาเป็นปรึกให้เราเอาเก็บไว้อ่านไว้ศึกษา จากนั้นเลยกินทุกอย่างที่หมอแนะนำว่าดีต่อสุขภาพลูกและตัวแม่เอง จนหมอบอกว่าน้ำหนักตัวลูกเยอะเกินกว่าเกณฑ์มากและแข็งแรง หัวใจเต้นปกติดี แต่เราก็แอบกังวลอยู่บ้างนิดน่อยค่ะ รอลุ้นเอาตอนคลอดค่ะว่าลูกแข็งแรงปกติดีเหมือนที่หมอบอกรึป่าวว 30wแล้วค่ะ

สู้นะลูก ทำไมหมอรพ.รัฐบาลใจร้ายจัง วันนี้ได้อ่านเห็นหลายเคสมากที่ละเลยการตรวจ ตรวจส่งๆให้ผ่านไปวันๆ เราคนนึงที่ไม่ยอมตรวจหมอเดียว คลินิกพิเศษ 4 หมอ เพราะทำงานเดินทางต่างจังหวัดตลอด หมอแรกหาน้องไม่เจอเพราะอายุครรภ์น้อย และเก็บแพง ย้ายไปหาหมอ ฉัตรมณี ที่วารินชำราบ หมอท่านนี้เก่งมาก ดูอัลตราซาวเก่งมาก ตรวจไม่แพง กลับมาตรวจเลือดที่กรุงเทพ แพงและบริการไม่ดี ไม่ซาวให้ ตัดสินใจตรวจดาวซินโดรมที่หมอฉัตรมณี แต่หมอก็บอกแล้วจากการซาวส์ไม่ค่อยเสี่ยง แต่เพื่อความสบายใจหมอตรวจให้ พอใกล้คลอด ย้ายมาหมอศิริกัญญา ร้อยเอ็ด หมอตรวจละเอียดและตรวจนานมาก ดูทุกจุด ปากท้อง ทุกส่วน หมอศิริกัญญาทำคลอดให้ เย็บแผลดีมาก มองไม่เห็นเลยว่าเคยคลอดลูก ขอภาวนาให้หนูดีขึ้นนะลูก

ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจจากคุณเเม่ทุกๆๆท่านนะค่ะ อยากให้คุณเเม่ทุกคนตะหนักให้มากๆค่ะเรื่องการทานยาเสริม ยาบำรุงที่คุณหมอให้มาค่ะ โดยเฉพาะกรดโฟลิค สำคัญมากๆนะค่ะ คุณเเม่หลายๆท่านวันนี้คุณเเม่โชคดีที่ทานกรดโฟลิค เเละคุณเเม่บางท่านโชคดีที่ไม่ได้ทาน เเละลูกเกิดมาสมบูรณ์เเข็งเเรงค่ะ เเต่อยากให้คุณเเม่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการทานยาบำรุงให้มากๆนะค่ะ เพราะถ้าขาดการทานยาบำรุงเราอาจไม่โชคดีก็ได้ค่ะ รักลูกต้องทำเพื่อลูกนะค่ะ อย่าทำร้ายลูกค่ะ คุณเเม่บ้านนี้อยากนำเรื่องราวมาเเชร์ต่อเพื่อให้คุณเเม่ตะหนักเเละให้ความสำคัญในการบำรุงลูกให้ดีที่สุดค่ะ อย่ารอเวลาให้สายเกินไปนะค่ะเพราะถ้าลูกเราเกิดมาไม่สมประกอบเราจะเสียใจค่ะ

อ่านแล้วนึกถึงตัวเองเลยนำ้ตาจะไหล เราเองก็เป็นอีกคนที่โชคร้ายไม่ต่างกันเลย เราฝากท้องที่คลีนิคแห่งหนึ่ง อัลตร้าซาวทุกเดือน แต่พอมาถึงเดือนที่ 8 หมอพบก้อนเนื้อในสมองประมาณ 3 เซนกว่าๆ ลามไปเกือบครึ่งของศรีษะแล้ว หมอบอกว่าน้องมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หรือถ้าน้องเขาโชคดีอาจจะเสียในท้อง เราได้ยินแทบช็อค ทำใจไม่ได้ หลังจากนั้นเราก็เครียดมาก จนต้องไปเจอหมออีกครั้ง หมอตรวจเจอว่าเรามีอาการครรภ์เป็นพิษ หมอจึงสอดยา 2 เม็ด ยาเร่งอีก 1 เข็ม แน่นอนน้องที่คลอดออกมายังมีชีวิต ได้ยินเสียงร้อง นำ้หนัก 930 กรัม สามารถหายใจเองได้ แต่น้องกลับมีชีวิตได้แค่ 4 วัน เสียใจมากๆค่ะทุกวันนี้ก็ยังทำใจอยู่เลย ยังคงรอน้องเขากลับมาค่ะ

ขอเเสดงความเสียใจด้วยนะค่ะคุณเเม่สู้ๆค่ะรอน้องกลับมาเกิดเป็นลูกคุณเเม่ใหม่นะค่ะเป็นกำลังใจให้นะค่ะ

VIP Member

เอาจริงนะที่หมอโรงบาลรัฐไม่ให้มันเป็นเรื่องต้นทุน​ ร่างกายคนปกติเค้าก็ผลิตกรดโฟลิคพออยู่แล้ว​ แต่ส่วนมากที่แจกตามเอกชนคลินิค​ เค้าคิดคำนวณค่ายา อย่าโทษหมออย่างเดียวเพราะคนตั้งท้องควรหาหนังสือมาอ่านใช่ว่าจะพึ่งหมออย่างเดียว ไอ้เรื่องซาวน์ตามโรงบาลรัฐเค้าไม่ค่อยให้ซาวน์บ่อยหรอก.. ถ้าเค้าไม่ซาวให้ก็ควรออกไปซาวด์​เองตามคลินิคสูติก็แค่นั้น ในหนังสือการเตรียมตั้งครรภ์​เนี้ยเรื่องอาหารเาริมเค้าให้ทานตั้งแต่ช่วงเตรียมจะตั้งครรภ์​จนถึงหลคลอดหกเดือนเลย​ เอาจริง

สู้ๆนะคะคุณแม่และน้องภีม กว่าเราจะได้รับยาโฟลิคก็ท้องได้10wแล้ว กินบ้างไม่กินบ้าง ตอนนี้17w ลุ้นให้น้องแข็งแรงอยู่ค่ะ (ตอนนี้ไม่รู้สึกว่าลูกดิ้นค่ะ) หมอนัดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาซาวแค่เสียงหัวใจน้อง แต่เราทนแรงกดหมอไม่ไหวเลยได้ใช้เครื่องซาวแทน หมอบอกน้องดิ้นไม่หยุดหัวใจเสียงดังตลอด รอลุ้น10ส.ค. ตอนนี้ได้แต่พยายามกินยาที่กินแล้วอ้วกทุกวันๆเลยค่ะ เราขาดธาตุเหล็ก เลือดจาง เป็นพาหะธาลัสซีเมีย ตอนนี้ท้อมากเลยค่ะกลัวลูกไม่แข็งแรง😰

ขอบคุณค่ะ ตอนนี้แพ้หนักมาก กินข้าวแล้วก็อ้วกหมดเลย กินยาแทบไม่ไหว จะกลืนลงคออ้วกตลอด กลัวลูกไม่ได้รับสารอาหารให้เพียงพอด้วย เดือนหน้าหมอนัดซาวจริงจัง5เดือนค่ะ😩

คำถามยอดฮิต

บทความเกี่ยวข้อง