เป็นที่ทราบกันดีว่าน้ำมันปลามี DHA กับโอเมก้า 3 ซึ่งมีงานวิจัยบอกว่า ทำให้มีการแบ่งเซลล์ในการพัฒนาการทางสมองของทารกซึ่งนับว่าเป็นข้อดี แต่น้ำมันปลารูปแบบสกัดแบบเม็ดอาหารเสริมหากบริโภคมากไปก้มีข้อเสียก็คือ การที่แม่ได้รับโอเมก้า 3 มาไปส่งผลให้เลือดแข็งตัวยาก ดังนั้น ในช่วงใกล้คลอดหรือ 3 เดือนหลังของการตั้งครรภ์ คุณแม่ไม่ควรรับประทานค่ะ แนะนำให้คุณแม่รับประทานอาหารประเภทเนื้อปลา ไม่ว่าจะาน้ำจืดหรือปลาทะเล คุณแม่จะได้รับ DHA และโอเมก้า 3 เพียงพออยู่แล้วค่ะ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า DHA และ Omega3 มีส่วนช่วยบำรุงสมอง และสร้างพัฒนาการเรียนรู้ของลูก ส่วนความฉลาดจะขึ้นอยู่กับการได้รับการส่งเสริมแบะการกระตุ้นพัฒการจากพ่อแม่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำซ้ำ ให้เกิดทักษะ การแตกแขนงของเส้นใยสมองในการค้นหา เรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัวประกัยกันด้วยค่ะ
ส่วนตัวทานน้ำมันปลาในช่วงตั้งครรภ์ค่ะ จากที่เคยศึกษาและได้อ่านบทความต่างๆ ได้มีวิจัยเกี่ยวกับการทานน้ำมันปลาระหว่างตั้งครรภ์ว่า ผู้หญิงที่กินอาหารเสริมน้ำมันปลาในระหว่างตั้งท้องอาจช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับทารกได้ และช่วยให้ทารกไม่ค่อยเป็นหวัดในช่วงเดือนแรก ๆ หลังการคลอด อาหารเสริมน้ำมันปลาเหล่านี้ประกอบด้วย ดีเอชเอ หรือ กรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง ดังนั้นงานวิจัยชิ้นนี้จึงบ่งชี้ได้ว่าน้ำมันปลาสามารถช่วยเสริมภูมิต้านทานให้กับทารกได้ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://th.theasianparent.com/ประโยชน์ของน้ำมันปลาสำหรับผู้หญิงตั้งท้อง/
เค้าว่ากันว่าการทานน้ำมันปลาทำให้ลูกเกิดมาๆม่ค่อยป่วยคะ
กินตอนกีเดือนคะ ตอนนี้เริ่มตั้งครรภ์ได้แค่เดือนเดียวเองค่ะ
ทานได้เลยคะ
Ket Katsarin